สำนักข่าวไทยรายงานว่า กรณีข้อมูลของผู้สูงอายุที่เดินทางกลับจากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น และถึงประเทศไทยวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์เที่ยวบิน XJ621 ซัปโปโร-กรุงเทพ พบอาการป่วยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบีแคร์ และพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น
ล่าสุดสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ แจ้งว่าได้รับทราบและประสานต่อกรณีดังกล่าว พร้อมให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อด่านควบคุมโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก โดยเฉพาะการแจ้งผู้โดยสารที่เข้าข่ายเฝ้าระวังโดยตรง (เดินทางมากับเที่ยวบินขากลับดังกล่าว ) รวมทั้งให้ลูกเรือเที่ยวบินดังกล่าวหยุดงาน 14 วัน เพื่อสังเกตอาการ เฝ้าระวัง และเข้าไปตรวจเพิ่มเติม
สำหรับเที่ยวบินที่ให้บริการ ทางสายการบินได้มีการพ่นเสปรย์และอบฆ่าเชื้อ พร้อมทำความสะอาดฆ่าเชื้อตามมาตรฐานหลังกลับจากให้บริการเป็นประจำอยู่เเล้ว ซึ่งได้เพิ่มมาตรการพ่นเสปรย์และอบฆ่าเชื้อกับเครื่องบินลำดังกล่าวอีกครั้งแล้วอย่างเข้มข้น
กรณีผู้ติดเชื้อดังกล่าว ทางโรงพยาบาลบีแคร์มีการเผยแพร่ข้อมูลว่า ได้รับผู้ป่วยรายดังกล่าวเข้ารักษาจนตรวจพบเชื้อและส่งตัวต่อให้โรงพยาบาลเฉพาะทางดำเนินการรักษา และมีการระบุว่าผู้ป่วยไม่ยอมแจ้งให้ข้อมูลประวัติการเดินทางมาจากประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ส่งผลให้เกิดผลกระทบบุคลากรทางการแพทย์ต้องเข้าเกณฑ์ในการตรวจโรคและเฝ้าระวัง 14 วัน เมื่อโรงพยาบาลบีแคร์เผยแพร่เอกสารดังกล่าวออกไปก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นที่ให้ผู้ที่ติดเชื้อจากการเดินทางควรต้องแจ้งข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงเรื่องประวัติการเดินทางแก่แพทย์ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแก่บุคคลอื่นและบุคลากรทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด
ข้อมูลข่าวจาก สำนักข่าวไทย