นักโภชนาการเตือนข้อควรระวังในการกินส้มโอ ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์!

ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ผู้คนนิยมชมพระจันทร์เต็มดวง ปิ้งย่างบาร์บีคิว กินขนมไหว้พระจันทร์ และส้มโอ แม้ว่าส้มโอจะมีแคลอรี่ต่ำและอุดมไปด้วยสารอาหาร แต่ผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูง ควรควบคุมปริมาณในการรับประทานให้ดี

อ่านข่าวเพิ่มเติม : สิ่งที่นิยมทำในเทศกาลไหว้พระจันทร์ เทศกาลแห่งการปิ้งย่างของไต้หวัน

คุณค่าทางโภชนาการของส้มโอ ภาพ／จากเฟซบุ๊ก高敏敏營養師

ส้มโออุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด รวมถึงเส้นใยอาหาร เพคตินจากธรรมชาติ วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และโพแทสเซียม มีหน้าที่ช่วยย่อยอาหาร ลดคอเลสเตอรอล ช่วยบำรุงเรื่องความสวยความงาม ช่วยเผาผลาญ ปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ลดความดันโลหิต ขจัดอาการบวมน้ำ แม้ว่าส้มโอจะมีสารอาหารหลากหลาย แต่อย่างไรก็ตาม นักโภชนาการ มีการแนะนำว่า ควรรับประทานส้มโอครั้งละ 5 ถึง 6 ชิ้น ไม่ควรรับประทานมากหรือน้อยจนเกินไป

นักโภชนาการ กล่าวว่า ส้มโอ เป็นผลไม้ที่มีปริมาณโพแทสเซียมสูง ซึ่งทำให้ผู้ที่เป็นโรคไต หรือการทำงานของไตบกพร่อง เผาผลาญโพแทสเซียมส่วนเกินได้ยาก ส้มโอ 1 ผล สามารถเทียบเท่าหรือมากกว่า ผลไม้ถึง 3 หน่วยบริโภค การบริโภคที่มากเกินไป อาจทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นได้ง่าย ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือผู้ที่จำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ควรทานส้มโอมากจนเกินไป ทั้งนี้ เนื่องจากส้มโอมีส่วนช่วยกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร การรับประทานส้มโอมากเกินไป อาจทำให้ผู้ที่มีระบบย่อยอาหารอ่อนแอ หรือผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคกรดไหลย้อน เกิดอาการท้องร่วงได้ง่าย

อ่านข่าวเพิ่มเติม : สตม.ทำ “แบบสำรวจความต้องการสำหรับพี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในไต้หวัน ประจำปี 2023” หวังยกระดับมาตรฐานชีวิต

ยาที่ไม่ควรรับประทานพร้อมกับส้มโอ ภาพ／จากเฟซบุ๊ก高敏敏營養師

นักโภชนาการ ชี้ว่า มียา 7 ชนิด ที่ไม่ควรรับประทานพร้อมกับส้มโอ ได้แก่ ยากดภูมิคุ้มกัน (Cyclosporine) ยาลดไขมันในเลือด (Statins) ยาลดความดันโลหิต (Amlodipine,Felodipine,Nifeddipine OROS,Verapamil ) ยาต้านฮีสตามีน (Astemizole,Terfenadine) ยาต้านภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Amiodarone) ยาต้านเกล็ดเลือด (Cilostazol) และยากันชัก (Carbamazepine) เป็นต้น