[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ผู้แปล/นงค์รักษ์ เหล่ากอคำ (李慧毓)
จากสถิติของศูนย์บัญชาการโรคระบาดส่วนกลาง ณ วันที่ 22 เมษายน ปัจจุบันมีผู้ได้รับวัคซีนแล้วทั้งหมด 34,197 คน นอกจากนี้ศูนย์บัญชาการยังประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนเป็นต้นไป จะมีการขยายการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มที่ 5 และ6 ได้แก่ ตำรวจ ทหาร กลุ่มคนที่อยู่ในการดูแลระยะยาวของสถาบันสวัสดิการสังคมและผู้ดูแล โดยเพิ่มขึ้น 250,000 รายและผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่6 จำนวน 868,000 ราย
ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดของโรคระบุว่า เมื่อพิจารณาผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางสังคม เช่น อาสาสมัครรักษาความสงบเรียบร้อย อาสาสมัครที่ปฏิบัติงานของสถาบันสวัสดิการทางสังคมในระยะยาวและระบบการดูแลสวัสดิการทางสังคม ล้วนเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ เพื่อให้อาสาสมัครกลุ่มดังกล่าวได้รับภูมิคุ้มกันโดยเร็วที่สุด ดังนั้นจะเริ่มให้มีการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน เป็นต้นไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม :0423 NIA影音新聞-中文
ศูนย์บัญชาการเตือนว่า ก่อนการฉีดวัคซีนประชาชนควรปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนการฉีดวัคซีน หลังจากฉีดวัคซีนแล้วควรสังเกตอาการอย่างน้อย 30 นาทีและพักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากนี้เนื่องจากการคุมกำเนิดและการได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมน ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงในการทำให้เกิดลิ่มเลือด จึงขอแนะนำให้ผู้ป่วยดังกล่าวหยุดรับประทานยาอย่างน้อย 28 วัน ก่อนและหลังการฉีดวัคซีน หลังการฉีดวัคซีน 14 วัน หากหายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ปวดท้องอย่างต่อเนื่อง แขนขาบวมหรือเย็น ปวดศีรษะรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ตาพร่ามัว มีเลือดออกผิดปกติบริเวณที่ไม่ได้ฉีด และเกิดจุดสีม่วง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการฉีดวัคซีนต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อชี้แจงหาสาเหตุวินิจฉัยและได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด
อ่านข่าวเพิ่มเติม :澎湖服務站關心新住民健康 辦活動學習鍛鍊大腦