กรมอนามัยไทยชวนประชาชนปฏิบัติตัวตามมาตรการลดแพร่ระบาดโรคโรวิด-19 อย่างเคร่งครัดทั้งนอกบ้านและในบ้าน

นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในการรับมือโรคโควิด-19 ไทยได้ดำเนินหลายมาตรการที่คาดว่าสามารถลดการแพร่ระบาดได้ ซึ่งสิ่งที่ทำมาอย่างต่อเนื่องคือ การรณรงค์ให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing ด้วยการขอให้ลด งด การเดินทางออกไปรวมกลุ่มกันจนแออัดในสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ปิด รณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ คู่กับการรณรงค์ให้สวมหน้ากากอนามัยแบบผ้า ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 2 เมตร ซึ่งดูเหมือนจะได้ผลโดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัย แต่เรื่องการเว้นระยะห่างยังเป็นเรื่องที่ห่วง เพราะจากข้อมูลรายงานผู้ป่วยโรคโควิด-19 พบเชื้อเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ผู้ป่วยที่นำเชื้อมากลับทำให้เกิดการป่วยเป็นกลุ่มก้อน ช่วงแรกที่เห็นคือ สถานที่แออัดเสี่ยงต่างๆ ซึ่งดำเนินการปิดไปแล้ว อาทิ สนามมวย สถานบันเทิง ทำให้พบผู้ป่วยจากกลุ่มก้อนนี้ลดลงเรื่อยๆ แต่กลับพบผู้ป่วยที่ติดจากคนในบ้านด้วยกันเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากยังมีประชาชนที่ยังมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ซึ่งทุกครั้งที่ออกคือ ความเสี่ยงไปรับเชื้อกลับเข้าบ้าน และเมื่อถึงบ้านไม่ได้ปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดทั้งเว้นระยะห่าง แยกสำรับอาหาร ใช้ช้อนส่วนตัว ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับคนในบ้านก็ทำให้พบผู้ป่วยที่ติดจากคนในบ้านด้วยกันเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่มักมีโรคประจำตัว เป็นกลุ่มที่เมื่อป่วยแล้วเสี่ยงอาการรุนแรงนำสู่การเสียชีวิตได้ จึงแนะนำประชาชนทั่วไปปฏิบัติตามมาตรการลดการแพร่ระบาดทุกข้ออย่างเคร่งครัดทั้งนอกบ้านและในบ้าน

ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์