[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ผู้แปล／นงค์รักษ์ เหล่ากอคำ （李慧毓）
ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดของโรคส่วนกลาง ประกาศเมื่อวันที่ 29 เมษายนว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากต่างประเทศ 2 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ 2 ราย และอีก 1 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศได้เดินทางมาจากฟิลิปปินส์ (กรณีที่ 1118) และเม็กซิโก (กรณีที่ 1119) ในส่วนของกรณีผู้ติดเชื้อในประเทศ รายหนึ่งเป็นพนักงานของโรงแรมป้องกันโรคระบาดในสนามบิน (กรณีที่ 1120) และอีกรายเป็นสมาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่กับกรณี 1078 (กรณีที่ 1121) และกรณีที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเป็นนักบิน (กรณีที่ 1122)
ในส่วนของกรณีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากต่างประเทศ ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1118 เป็นแรงงานข้ามชาติหญิง ชาวฟิลิปปินส์ อายุ 20 ปี เมื่อวันที่ 7 เมษายน ได้เดินทางเข้ามาทำงานในไต้หวัน โดยมีรายงานผลการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนบินเข้าประเทศ หลังจากที่เดินทางมาถึงได้เดินทางต่อไปยังสถานที่กักตัวส่วนกลางทันที ในวันที่ 20 เมษายนก่อนวันครบกำหนดของการกักตัวได้มีการตรวจอีกครั้งและผลลัพธ์เป็นลบ ต่อมาหลังจากพ้นช่วงเวลากักตัว ทางบริษัทได้จัดให้มีการกักตัวเพิ่มเติมที่สถานที่ที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ เนื่องจากความจำเป็นในการทำงาน ในวันที่ 27 เมษายน ได้ขึ้นรถโดยสารพิเศษไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอีกครั้ง และวันนี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดโค (ค่าCt คือ 36) กรณีนี้ไม่มีอาการระหว่างที่เขาอยู่ในไต้หวัน มีผู้สัมผัสกับรายนี้จำนวน 5 คน เป็นผู้ที่นั่งรถคันเดียวกันทั้งหมด ขณะนี้ทั้ง 5 คนได้รับการดูแลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1119 เป็นชายชาวไต้หวัน วัย 40 ปี ในเดือนมกราคมปีนี้ เขาได้เดินทางไปเจรจากับสาธารณชนที่เม็กซิโกและเดินทางกลับมายังไต้หวัน ในวันที่ 18 เมษายน โดยมีรายงานผลการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนบินเข้าประเทศ หลังจากที่เดินทางมาถึงได้เดินทางต่อไปยังโรงแรมเพื่อทำการกักตัวทันที ต่อมาในวันที่ 24 เมษายน เริ่มมีอาการไอและไข้ จนถึงวันที่ 26 เมษายน หน่วยอนามัยจึงได้นัดตรวจสุขภาพ และได้รับการวินิจฉัยในวันนี้ว่าติดโควิด (ค่าCt คือ 23) สองวันก่อนที่จะเริ่มมีอาการอยู่ในช่วงของการกักตัว ดังนั้นจึงไม่มีรายชื่อผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายนี้เพิ่ม
ในส่วนของกรณีผู้ติดเชื้อภายในประเทศ ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1120 เป็นชายชาวไต้หวัน อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพนักงานของโรงแรมป้องกันโรคระบาดในสนามบิน เขาไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศเมื่อเร็วๆนี้ ตามรายงานระบุว่า เขาทำหน้าที่ดูแลตรวจสอบความสะอาดของสภาพแวดล้อมในห้อง ช่วยเหลือผู้ป่วยในการซื้อของหรือส่งของเป็นครั้งคราว ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่เขาได้สวมถุงมือและหน้ากากอนามัยทุกครั้ง แต่วันที่ 17 เมษายน ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไอ น้ำมูกไหล เบื่ออาหารและหายใจไม่ออก ต่อมาตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนถึง 26 เมษายนได้เดินทางไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลหลายครั้ง แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จนเมื่อวันที่ 27 เมษายน เขาเดินทางไปตรวจร่างกายและได้รับการวินิจฉัยในวันนี้ว่าเป็นโควิด (ค่าCt คือ 21 แอนติบอดีในซีรัม IgM และ IgG เป็นบวก)
ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1120 เขาอาศัยอยู่คนเดียวโดยไม่ได้อาศัยอยู่กับสมาชิกในครอบครัว รายในขั้นต้นมีผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายนี้จำนวน 107 ราย รวมถึงเพื่อนในที่ทำงานและผู้ติดต่อทางการแพทย์ ในจำนวนนี้มี 4 รายอยู่ในระหว่างการกักตัวที่บ้าน และอีก 103 ราย จัดให้มีการดูแลสุขภาพที่เป็นอิสระ ขณะนี้กำลังจัดเรียบเรียงไทม์ไลน์และรายชื่อกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสกับผู้ป่วยรายนี้อยู่ เนื่องจากขณะนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ด้านการป้องกันการแพร่ระบาดของโรงแรมในสนามบิน ศูนย์บัญชาการสั่งให้มีการตรวจเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน สำหรับคนที่กำลังพักอยู่ในโรงแรมทั้งหมด จะถูกส่งไปยังศูนย์กักตัวส่วนกลางในวันนี้ ขณะนี้ได้มีการสุ่มตรวจพนักงานโรงแรมแล้ว 39 ราย โดยผลออกมาเป็นลบทั้งหมด
ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1121 เป็นหญิงชาวไต้หวัน อายุ 40 ปี เป็นสมาชิกในครอบครัวของ กรณีที่ 1078 (นักบิน) เมื่อวันที่ 20 เมษายน เธอได้รับการตรวจเนื่องจากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสกับผู้ป่วยและผลการทดสอบเป็นลบ ต่อมาในวันที่ 27 เมษายน เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ฯลฯ หน่วยสุขภาพได้นัดตรวจสุขภาพอีกครั้งและยืนยันการวินิจฉัยในวันนี้ว่าติดโควิด (ค่าCt คือ 18) เนื่องจากกรณีนี้อยู่ในช่วงเวลาของการกักตัวที่บ้าน 2 วันก่อนที่จะเริ่มมีอาการ จึงไม่มีการสัมผัสกับผู้อื่น
ในส่วนของกรณีที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1122 เป็นชายชาวไต้หวัน วัย 50 เขาเป็นนักบินขนส่งสินค้าของสายการบินแห่งหนึ่ง ได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนถึง 9 เมษายน หลังจากเดินทางกลับถึงไต้หวัน เขาเดินทางไปกักตัวที่โรงแรมจนถึงวันที่ 15 เมษายน ช่วงเวลาการกักตัวไม่มีอาการใดๆและมีผลการตรวจเป็นลบ ต่อมาในวันที่ 27 เมษายนเขาได้มีอาการผิดปกติ ดังนั้นหน่วยสุขภาพได้นัดตรวจสุขภาพและได้รับการวินิจฉัยในวันนี้ว่าติดโควิด (ค่าCt คือ 21) โดยมีผู้อาศัยอยู่กับผู้ป่วยรายนี้จำนวน 1 ราย ขณะนี้ได้มีการกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
