กระทรวงศึกษาธิการไต้หวันเผย ตั้งแต่ 22 ก.ค.เป็นต้นไป อนุญาติให้นักศึกษาใหม่เดินทางเข้าไต้หวันได้

เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) กระทรวงศึกษาธิการไต้หวันระบุว่า ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันจะอนุญาติให้นักศึกษาใหม่ภาคการศึกษาที่ 1 ปี 2020 ที่จะเดินทางมาศึกษาในไต้หวันจากประเทศหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงของการแพร่ระบาดต่ำและปานกลาง สามารถเดินทางเข้ามาในไต้หวันได้ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.เป็นต้นไป โดยวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทุกแห่งจะต้องติดต่อกับนักศึกษาต่างชาติเพื่อจัดการเรื่องวีซ่าและเตรียมสถานที่กักกันโรค รวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงศึกษาฑิการได้ยึดตามหลักการและขั้นตอนการดำเนินการที่มีมาตรฐานที่ตกลงโดยศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันในวันที่ 17 มิ.ย.และ 8 ก.ค. โดยทะยอยเปิดให้นักศึกษาจาก 18 ประเทศหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงของการแพร่ระบาดต่ำและปานกลางจำนวน  ประเทศ สามารถเดินทางเข้ามาในไต้หวันได้ และตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.จนถึงวันที่14 ก.ค.กระทรวงศึกษาธิการได้อนุมัติการขอเข้าไต้หวันของนักศึกษาต่างชาติจำนวน 342 คน จากสถานศึกษา 65 แห่ง นอกจากนี้นักเรียน 284 คนได้เดินทางเข้าไต้หวันแล้วและดำเนินการกักตัวอยู่ที่โรงแรมเพื่อการกักกันโรค ซึ่งขั้นตอนการกลับเข้ามาในไต้หวันนั้นราบรื่นและเป็นระเบียบเรียบร้อย

ภายใต้เงื่อนไขการพิจารณาทั้ง “การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคมาก่อน” และ “สิทธิการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ”กระทรวงศึกษาธิการได้ให้การสนับสนุนแผนการช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องสำหรับการเดินทางกลับมาไต้หวันของนักศึกษาต่างชาติตามการอนุมัติของศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวัน โดยตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.เป็นต้นไป ได้มีการเพิ่มประเทศเมียนมาในลิสต์รายชื่อประเทศหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงของการแพร่ระบาดต่ำ และตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.เป็นต้นไป อนุญาติให้นักศึกษาใหม่ภาคการศึกษาที่ 1 ปี 2020 ที่จะเดินทางมาศึกษาในไต้หวันจาก 19 ประเทศหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงของการแพร่ระบาดต่ำและปานกลาง (เวียดนาม, ฮ่องกง, มาเก๊า, ไทย, ปาเลา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, บรูไน, ฟิจิ, มองโกเลีย, ภูฏาน, ลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ศรีลังกา และเมียนมา) และต้องอาศัยอยู่ในประเทศหรือพื้นที่นั่นๆ ด้วย สามารถเดินทางเข้ามาในไต้หวันได้ และให้ทางวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทุกแห่งติดต่อกับนักศึกษาต่างชาติเพื่อจัดการเรื่องวีซ่าและเตรียมสถานที่กักกันโรค รวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่เกี่ยวข้อง