นายแพทย์สมัย ศิริทองถาวร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีชายไทยที่กลับจากประเทศอิสราเอล ที่อยู่ระหว่างกักตัวใน State Quarantine เพื่อเฝ้าระวังโรคโควิด-19 กระโดดจากที่พัก ว่า ขอแสดงความเสียใจกับกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างพิสูจน์สาเหตุ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการดูแลผู้ที่ต้องกักตัวใน State Quarantine นั้นจะมีระบบการดูแลทั้งทางด้านสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตควบคู่กัน โดยในส่วนของการดูแลสุขภาพจิตนั้น มีระบบการคัดกรองตั้งแต่อยู่บนเครื่องบิน โดยจะมีการประเมินเรื่องความเครียด ความวิตกกังวล ภาวะเสี่ยงซึมเศร้าและความเสี่ยงในการฆ่าตัวตาย เพื่อจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งหากเป็นคนที่มีภาวะเสี่ยงก็จะเข้าไปดูแลทันทีตั้งแต่มาถึงเมืองไทย ส่วนคนที่ไม่มีภาวะเสี่ยงอะไรเลยทีมจิตแพทย์จะไม่ได้เข้าไปดูแลในวันแรกๆ รอให้คนเหล่านี้ทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นจึงระดมทีมสุขภาพจิตไปประเมินให้ครบในวันที่ 2 และ วันที่ 3 ที่เข้าพักใน State Quarantine พร้อมให้คำแนะนำในการปฏิบัติเพื่อลดความเครียด ลดความกังวล มีเอกสารคำแนะว่าในแต่ละวันควรทำอะไรบ้าง
ขณะเดียวกันระหว่างที่ต้องกักตัวก็จะมีการพูดคุยให้คำปรึกษาทั้งผ่านทางไลน์ ผ่านคิวอาร์โค้ด ผ่านทางโทรศัพท์ หากพบใครมีปัญหาสุขภาพจิตจะเข้าไปดูแล หรือหากมีอาการรุนแรงก็จะส่งไปรักษาที่ รพ.ที่จับคู่ไว้ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าคนที่มีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับโรคทางจิตเวช มีบางคนที่มีการเสพติดเหล้า ซึ่งในสถานที่แยกกักนั้นไม่อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้คนเหล่านี้มีปัญหาลงแดง ซึ่งต้องเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ อาจจะเครียดมากหน่อย ส่วนกรณีนี้จากที่ประเมินบนเครื่องบินไม่พบปัญหาใดอย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ประชาชนส่วนหนึ่งที่กลับเข้ามานั้นไม่ยอมบอกข้อมูลอะไรในช่วงที่คัดกรอง เพราะกังว่าจะถูกตีตรา ซึ่งเกิดขึ้นจริง และกระทบไปถึงญาติๆ ที่อยู่ทางบ้านด้วยที่ถูกรังเกียจ ตีตรา แต่ช่วงหลังๆ ลดลงไปมากแล้ว ดังนั้นหากญาติๆ ที่รู้ว่าจะมีญาติกลับจากต่างประเทศแล้ว มีสภาวะปัญหาสุขภาพกาย สุขภาพจิตอะไรอยู่สามารถแจ้งเข้ามาเพื่อให้ทราบและดูแลอย่างเหมาะสมอีกทางหนึ่ง
ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์