img
:::

กรมควบคุมโรคของไทยประเมินสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง เตือนประชาชนปฎิบัติตามมาตรการป้องกัยโรคอย่างเคร่งครัด

กรมควบคุมโรคของไทยประเมินสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง เตือนประชาชนปฎิบัติตามมาตรการป้องกัยโรคอย่างเคร่งครัด

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 32 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล รัสเซีย โคลัมเบีย สำหรับประเทศไทยขณะนี้อยู่อันดับที่ 135 ของโลก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ของไทยขณะนี้ยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังป้องกันในกลุ่มผู้เดินทางเข้าประเทศ ทั้งทางด่านพรมแดนและท่าอากาศยานตามมาตรการอย่างเข้มงวด 

สำหรับด่านพรมแดนได้เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวัง ผู้ที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่อาจนำเชื้อเข้ามาในประเทศไทย โดยหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว อสต. ร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันโรคในพื้นที่ชายแดนและในจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากแรงงานที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายจะไม่ได้เข้าสู่ระบบการคัดกรอง เฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคตามมาตรการอาจนำเชื้อมาแพร่ให้กับคนในชุมชนได้ ขอให้ช่วยกันสังเกตอาการป่วยของตนเองและคนรอบข้างอยู่เสมอ หากมีอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก การรับรสและกลิ่นลดลง ภายหลังจากไปในสถานที่ชุมชน หรือสถานที่ที่มีความแออัด ขอให้ไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที 

พร้อมขอความร่วมมือทุกคนให้เคร่งครัดในมาตรการป้องกันตนเอง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงาน ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง อย่าประมาท เพราะเมื่อติดเชื้อมักจะไม่แสดงอาการ หรือแสดงอาการน้อย จึงอาจแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว ขอให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้านและทุกครั้งที่อยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง เลี่ยงสถานที่แออัด ลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ที่ใช้บริการในแพลตฟอร์มไทยชนะทุกครั้ง เพราะเมื่อพบผู้ติดเชื้อจะสามารถใช้ข้อมูลติดตามผู้สัมผัส เพื่อเฝ้าระวัง ตรวจวินิจฉัยและป้องกันควบคุมโรคต่อไป

ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading