ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดกลางประกาศเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ว่ามีการนำเข้าโควิด -19 ที่ได้รับการยืนยันแล้ว 7 ราย จากฟิลิปปินส์ (เคสที่ 1155) อินโดนีเซีย (เคสที่ 1156) (เคสที่ 1159 ถึงเคสที่ 1161) ญี่ปุ่น (เคสที่ 1157) และสหรัฐอเมริกา (เคสที่ 1158)
ศูนย์บัญชาการชี้ให้เห็นว่า เคสที่ 1155 เป็นแรงงานอพยพหญิง ชาวฟิลิปปินส์ อายุ 20 ปี ที่เข้ามาทำงานในไต้หวันเมื่อวันที่ 20 เมษายน และมีรายงานการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนการบิน หลังจากเข้าประเทศแล้วได้ไปที่ด่านกักกันส่วนกลางเพื่อทำการกักตัว ก่อนสิ้นสุดระยะเวลากักตัวในวันที่ 3 พฤษภาคม และมีการทำวินิจฉัยในวันนี้ กรณีนี้ไม่มีอาการขณะอยู่ในไต้หวันและไม่ได้ติดต่อกับผู้อื่นในช่วงเวลากักตัวจึงไม่มีรายชื่อผู้สุ่มเสี่ยง
ศูนย์บัญชาการระบุว่าเคสที่ 1156 เป็นชาวประมงชาย ชาวอินโดนีเซีย อายุ 30 ปี ซึ่งเข้ามาทำงานในไต้หวันเมื่อวันที่ 20 เมษายน เขามีรายงานผลการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนการบิน และไปยังด่านกักกันส่วนกลางเพื่อทำการกักตัวหลังจากเข้ามาในประเทศ ดำเนินการตรวจสอบก่อนหมดระยะเวลากักตัวในวันที่ 3 พฤษภาคม และการวินิจฉัยได้รับการยืนยันในวันนี้ (ค่า Ct 31) กรณีนี้ไม่มีอาการขณะอยู่ในไต้หวันและไม่ได้ติดต่อกับผู้อื่นในช่วงเวลากักกันจึงไม่มีรายชื่อผู้สุ่มเสี่ยง
ศูนย์บัญชาการชี้ว่า เคสที่ 1157 เป็นชายชาวญี่ปุ่น อายุ 40 ปี เขามาที่ไต้หวันเพื่อเจรจาธุรกิจเมื่อวันที่ 28 เมษายน และมีรายงานการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนการบิน เข้าประเทศโดยไม่มีอาการและไปยังด่านกักกันส่วนกลางเพื่อทำการกักตัว อาการเช่นคันคอและปวดกล้ามเนื้อปรากฏในวันที่ 2 พฤษภาคม หน่วยสุขภาพได้นัดตรวจสุขภาพในวันรุ่งขึ้นและได้รับการยืนยันการวินิจฉัยในวันนี้ (ค่า Ct 21) มีผู้สัมผัส1 ราย และถูกระบุว่าให้เฝ้าระวังด้วยตนเอง เนื่องจากมีการป้องกันที่เหมาะสม
ศูนย์บัญชาการระบุว่า เคสที่ 1158 เป็นชายชาวไต้หวัน อายุ 20 ปี ซึ่งทำงานในสหรัฐอเมริกาในเดือนกันยายนปี 2020 และได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศเมื่อวันที่ 23 มีนาคมปีนี้ กรณีดังกล่าวเดินทางกลับมายังประเทศเมื่อวันที่ 11 เมษายน และมีรายงานผลการทดสอบในเชิงลบภายใน 3 วันก่อนการบิน เมื่อเข้ามาในประเทศให้ริเริ่มรายงานว่าเขาได้รับการวินิจฉัยในสหรัฐอเมริกา ผลการตรวจสอบสองครั้งที่สนามบินและสถานีกักตัวส่วนกลางเป็นลบ เค้าย้ายไปที่โรงแรมป้องกันการแพร่ระบาดในวันที่ 12 เมษายนเพื่อดำเนินการกักตัว ผู้ป่วยกลับบ้านหลังจากหมดระยะเวลากักตัวในวันที่ 26 เมษายน เนื่องจากความจำเป็นในการทำงานเขาจึงไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบด้วยค่าใช้จ่ายของตัวเองในวันที่ 3 พฤษภาคม และได้รับการวินิจฉัยในวันนี้ (ค่า Ct 31 หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลค่า Ct เท่ากับ 33 และแอนติบอดีในซีรัม IgM และ IgG เป็นบวกทั้งหมด) มีผู้สุ่มเสี่ยง 8 รายกำลังได้รับการควบคุม โดย 3 รายชื่ออยู่ในการกักตัวภายในบ้าน
ศูนย์บัญชาการชี้ให้เห็นว่าเคสที่ 1159 และ 1160 เป็นผู้หญิงชาวอินโดนีเซียในวัย 20 ปี และผู้ชายอายุ 10 ปี ที่มาเรียนที่ไต้หวันเมื่อวันที่ 21 เมษายน และทั้งคู่มีรายงานผลการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนออกเดินทาง หลังจากเข้าประเทศแล้วได้ไปที่ด่านกักกันส่วนกลางเพื่อทำการตรวจสอบ และจะดำเนินการในวันที่ 4 พฤษภาคม ก่อนหมดระยะเวลากักตัว การวินิจฉัยจะดำเนินการในวันนี้ (กรณี 1159: ค่า Ct 33 กรณีที่ 1160: ค่า Ct 34) ทั้ง 2 รายไม่มีอาการระหว่างที่อยู่ในไต้หวันและไม่มีการติดต่อกับผู้อื่นในช่วงเวลากักตัวจึงไม่มีรายชื่อผุ้สุ่มเสี่ยง
ศูนย์บัญชาการระบุว่าเคสที่ 1161 เป็นชาวประมงชายชาวอินโดนีเซีย อายุ 10 ปี ที่เข้ามาทำงานในไต้หวันเมื่อวันที่ 21 เมษายน และมีรายงานการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนการบิน หลังจากเข้าประเทศแล้วได้ไปที่ด่านกักกันส่วนกลางเพื่อทำการกักตัวจนถึงวันที่ 4 พฤษภาคม และได้รับการวินิจฉัยยืนยันในวันนี้ กรณีนี้ไม่มีอาการขณะอยู่ในไต้หวันและไม่ได้ติดต่อกับผู้อื่นในช่วงเวลากักกันจึงไม่มีรายชื่อผู้สุ่มเสี่ยง
