เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) นายจง จิ่งคุน (鐘景琨) รองผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวัน (สตม.ไต้หวัน) พร้อมด้วยนายเฉิน จื่อจ้ง (陳志仲) คณะกรรมาธิการด้านกฎหมาย คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่และนายหลิ๋ว หุ้ยหลิ๋ง (劉慧玲) รองผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย มูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนช่องแคบไต้หวัน เดินทางไปยังฮวาเหลี๋ยนด้วยรถให้บริการเคลื่อนที่ เพื่อเยี่ยมคุณไล่ ลี่จิง (賴麗京) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และแรงงานข้ามชาติของบริษัท Jota Food ในขณะเดียวกันก็ได้ไปเยือนสถานีบริการผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในเมืองฟงหลิ๋นของสมาคมส่งเสริมการพัฒนาชุมชนหนิ๋วเกินเฉา เพื่อแสดงความห่วงใยและให้ความสำคัญจากรัฐบาลแก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และแรงงานข้ามชาติ
โดยสถานที่แรก รถให้บริการเคลื่อนที่ได้เดินทางไปเยี่ยมคุณไล่ ลี่จิง (賴麗京) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวจีน ซึ่งเธอทำงานด้านการดูแลระยะยาวมานานกว่าสิบปี เธอมีความเอาใจใส่และกระตือรือร้นเพื่อให้บริการการดูแลอย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังสอบผ่านได้รับใบอนุญาติด้วย
คุณไล่ดูแลผู้ป่วยด้วยความกรุณาและมีความสามารถระดับมืออาชีพ ก็ทำให้เธอได้รับการยกย่องจากสมาชิกในครอบครัวและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ เธอยังเคยช่วยเหลือดูแลและฟื้นฟูชายหนุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการกระโดดตึกอย่างระมัดระวังจนมีชีวิตใหม่อีกครั้ง หลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตก็ทำให้เธอต้องดูแลลูกตัวคนเดียว เธอรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ด้านการดูแลนั้นมีเวลาการทำงานที่ยาวนานไม่มีเวลาให้ลูก ดังนั้นในช่วงต้นปีนี้ (2020) ก็ได้ก่อตั้งหน่วยงานด้านการดูแลระยะยาวเอกชนเย่วเซิงมณฑลฮวาเหลี๋ยน (花蓮縣私立悅昇居家長照機構) และกลายเป็นหนึ่งในสถาบันการดูแลระยะยาว 2.0 ของมณฑลฮวาเหลี๋ยน คุณไล่ ลี่จิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า การเปิดกิจการพร้อมกับช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีความท้าทายมาก ขอขอบคุณสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ และมูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนช่องแคบที่ให้กำลังใจ ทำให้ตนเองมีความกล้าหาญมากขึ้นในการเผชิญกับบททดสอบที่จะเข้ามา ขอเชิญชวนผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่กำลังหางานทำมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมเรา
หลังจากนั้น รถให้บริการเคลื่อนที่ได้เดินทางไปที่ศูนย์วัฒนธรรม Ami Xiaomi (阿美小米文化館) ของบริษัท Jota Food ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Amis Mochi (阿美麻糬) ที่มีการจ้างานแรงงานข้ามชาติชาวอินโดนิเซียและฟิลิปปินส์กว่า 20 คน ซึ่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีความห่วงใยเกี่ยวกับผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อการใช้ชีวิตของแรงงานข้ามชาติ และได้ให้กำลังใจพวกเขาด้วย ฮาตี้ แรงงานข้ามชาติชาวอินโดนิเซียกล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตนไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ และการเฉลิมฉลองวันอีดิลฟิฏรีส่วนใหญ่ในไต้หวันก็ถูกยกเลิกและปีใหม่อินโดนิเซียก็กลับบ้านไม่ได้ ทำให้รู้สึกคิดถึงบ้านมาก แต่การดูแลเป็นอย่างดีของรัฐบาลไต้หวันก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นมากขึ้น
รถให้บริการเคลื่อนที่ได้เดินทางมาถึงสถานีบริการผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในเมืองฟงหลิ๋นของสมาคมส่งเสริมการพัฒนาชุมชนหนิ๋วเกินเฉาเพื่อทำการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริการและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณไช่ จินเหริ๋น (蔡金仁) ประธานสมาคม นอกจากนี้ยังได้พูดคุยและทำการประชาสัมพันธ์กฎหมายแก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่มาทำธุระที่สถานีบริการด้วย
นายจง จิ่งคุนกล่าวว่า จุดประสงค์ของรถให้บริการเคลื่อนที่คือการให้คำปรึกษาด้านการเข้าเมืองแบบเคลื่อนที่ และออกดูแลผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในแต่ละเมือง หลังจากที่ประชาชน ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และแรงงานข้ามชาติได้ร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคจนห่างไกลจากไวรัสแล้ว ก็ต้องทำงานร่วมกันเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และได้ย้ำว่าผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ถือใบถิ่นที่อยู่สามารถใช้สิทธิ์ซื้อคูปองกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 เท่าได้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะเดินหน้าส่งเสริมผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และแรงงานข้ามชาติให้ได้อยู่อาศัยและทำงานในไต้หวันอย่างสบายใจ