[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ล่าสุด นพ.ศิริอนันต์ ประสิทธิ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานศัลยกรรม หน่วยศัลยกรรมระบบปัสสาวะ รพ.ยะลา ได้โพสต์ข้อความบนแฟนเพจ Sirianan Prasit ว่า “ วันนี้จะมาบอกอีกสาเหตุของอาการปวดหลังครับ ก่อนหน้านี้เคยยกตัวอย่างอาการปวดหลังที่เกิดจากนิ่วไต มะเร็งไต หนองรอบไต วันนี้มีอีกสาเหตุของอาการปวดหลังซึ่งเป็นมาแต่กำเนิดครับ ผู้ป่วยรายนี้ปวดหลังด้านขวา 5 ปี ตรวจกับหมอกระดูกไม่ดีขึ้น สุดท้ายทำอัลตร้าซาวนด์และเอกซเรย์คอมพิวเตอร์พบไตขวาบวม เนื่องจากมีเส้นเลือดแดงเพิ่มมาอีกเส้น (เส้นสีแดงล่าง) ไปกดทับท่อไตทำให้ไตบวมน้ำครับ (ในเส้นสีน้ำเงิน) บางทีร่างกายก็เล่นตลกกับเรา โดยทั่วไปคนเราจะมีเส้นเลือดแดงที่ไตด้านละเส้น (เส้นสีแดงเส้นบน) บางคนโชคดี (หรือโชคร้ายก็ไม่รู้) มีเส้นเลือดไตเส้นที่ 2 แถมมาด้วย ถ้าไปกดท่อไตก็ทำให้มีอาการปวดหลังรื้อรังได้ครับ”
อ่านข่าวเพิ่มเติม : การบินไทย เผยชุดแอร์โฮสเตสใหม่ ทำจากผ้าไหมผสมพลาสติกรีไซเคิล ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน!
ตามข้อมูลจาก ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเวชธานี ระบุว่า สำหรับคนที่มีอาการปวดหลัง ควรหมั่นสังเกตตัวเองว่า เวลาปวดนั้นรู้สึกปวดแบบใด เพราะลักษณะอาการปวดหลังนั้นสามารถ เป็นตัวช่วยในการวินิจฉัยโรคได้ ดังนี้
1. ปวดล้า ๆ เมื่อย ๆ มีจุดที่กดแล้วปวดมากขึ้น สาเหตุอาจเกิดจากกล้ามเนื้อ
2. ปวดร้าวเหมือนไฟฟ้าช็อต เช่น ร้าวจากคอไปถึงปลายนิ้วมือ สาเหตุอาจเกิดจากเส้นประสาทที่ถูกกดเบียด
3. ปวดตรงแนวกระดูกกลางหลัง มักเกิดจากตัวกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกสันหลัง หรือเอ็นยึดระหว่างกระดูกสันหลัง
4. ปวดหลังเยื้องออกมาด้านข้างอาจจะเป็นจากกล้ามเนื้อหลัง
5. ปวดหลังแบบมีอาการชาหรืออาการอ่อนแรงร่วมด้วย อาจเกิดความผิดปกติของระบบประสาท หรือเส้นประสาท อาจมีแนวโน้มจะเป็นโรคจากหมอนรองกระดูกสันหลัง กดทับรากประสาท
6. ปวดหลัง หลังจากยกของหนักหรือเล่นกีฬา อาจเกิดจากกล้ามเนื้ออักเสบ
ถ้าหากอาการที่เป็นอยู่ไม่สามารถหายได้เองหรือเป็นเกิน 2 – 3 อาทิตย์ขึ้นไป ควรเข้าแพทย์เฉพาะทางหาสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อการรักษาที่ตรงจุดและถูกวิธี