ปรับปรุงคุณภาพอากาศ ส่งเสริมการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งปอดอย่างแข็งขันในไต้หวันได้ผลเป็นอย่างดี

โรคมะเร็งปอดเป็นโรคที่ชาวไต้หวันให้ความสนใจ สำหรับคำแนะนำในการป้องกันโรคมะเร็งปอดจากสำนักบริหารการส่งเสริมสุขภาพไต้หวันมีดังต่อไปนี้

1. อุบัติการณ์ที่เป็นมาตรฐานของผู้ที่เป็นโรคมะเร็งปอดในปี 2015 คือ 36 ต่อ 100,000 คนซึ่งเป็นอันดับ 1 จาก 10 อันดับแรกของการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่าอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งปอดส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ในระยะยาว และมักจะพัฒนาเป็นมะเร็งปอดหลังจาก 10 ปี ขึ้นไป ซึ่งปัจจัยเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด ได้แก่ : การเผาไหม้ในอาคาร ควันน้ำมันจากการผัดอาหาร มลพิษทางอากาศภายนอกอาคาร ควันบุหรี่ มีประวัติการเป็นโรคที่เกี่ยวกับปอดและประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอด
2. จากสถิติการตรวจสอบคุณภาพอากาศของสำนักงานบริหารการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมไต้หวัน ณ สิ้นเดือนส.ค.ปีนี้ (2019) ระบุว่า ปีนี้มีคุณภาพอากาศดีที่สุด หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2015-2019 ระหว่างเดือนม.ค.ถึงส.ค.) นอกจากนี้ ชาวไต้หวันมีความกังวลเกี่ยวกับฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 หากเปรียบเทียบข้อมูลตั้งแต่เดือนม.ค.ถึงส.ค.ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการปรับปรุงดีขึ้น 22.3%  โดยค่าเฉลี่ยของประเทศได้ลดลงจาก 20.6 μg / m3 ในปี 2015, 18.7 μg / m3 ในปี 2016 และ 17.9 μg / m3 ในปี 2017 และลดลงเป็น 16.0 μg / m3 ในปี 2019
3. ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากความร่วมมือข้ามกระทรวงในการดำเนินการตามแผนป้องกันอันตรายจากมลพิษทางอากาศและสุขภาพ ซึ่งได้ผลลัพท์ที่ดี จากข้อมูลการลงทะเบียนมะเร็งในปี 2015 ระบุว่า สัดส่วนของมะเร็งปอดระยะเริ่มต้น (ระยะที่ 0-1) เพิ่มขึ้นเป็น 25.7% และอัตราการรอดชีวิตห้าปีเพิ่มขึ้นเป็น 27.3% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับในอดีต ส่วนในปี 2018 จำนวนผู้เสียชีวิตเนื่องจากโรคมะเร็งปอดคือ 9,388 คน ซึ่งอัตราการเสียชีวิตที่เป็นมาตรฐานโดยรวมของโรคมะเร็งปอดในไต้หวันลดลงทุกปี ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา (2010-2019) อัตราการเสียชีวิตมาตรฐานลดลงจาก 25.9 ต่อประชากร 100,000 คน เป็น 22.8 ต่อปี หรือลดลง 12%