[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามรายงานของ “สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์” นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายในงานสัมมนา “ทิศทางการขับเคลื่อน Digital Tax Ecosystem ของประเทศไทย” เพื่อนำเสนอนวัตกรรม เทคโนโลยีรูปแบบใหม่และแนวทางของระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและภาคีเครือข่ายกว่า 70 หน่วยงาน ว่า กรมสรรพากร มีเป้าหมายที่จะนำระบบการจัดเก็บภาษีเข้าสู่ระบบดิจิทัล 100 % ภายในปี 2570 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการที่ให้บริการนำส่งข้อมูลภาษี (Service provider) ให้สามารถปรับตัวและพัฒนารูปแบบการให้บริการ
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : ในเดือน ก.ค.นี้ รัฐฯ มีการปรับสิทธิและผลประโยชน์สำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ดูที่เดียวจบ
จากเดิมที่ต้องนำส่งข้อมูลภาษีของผู้ใช้บริการในรูปแบบกระดาษ ซึ่งมีต้นทุนที่สูง โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบการนำส่งข้อมูลภาษีอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย สามารถให้บริการด้านภาษีแบบครบวงจร (e-Tax Service provider) อาทิ ยื่นคำขอ/จดทะเบียน จัดทำงบการเงินและนำส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งยื่นแบบชำระภาษีและขอคืนภาษี โดยผู้ที่สนใจให้บริการ สามารถยื่นขอต่อกรมได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งระบบดังกล่าวนี้ จะช่วยให้มีความสะดวกมากขึ้น ทั้งลดข้อผิดพลาดในการเสียภาษี สามารถคืนภาษีได้เร็วภายใน 3 วัน รวมทั้งช่วยลดข้อโต้แย้งกับเจ้าหน้าที่และลดต้นทุนได้มากขึ้น
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : เทศกาลศิลปะเมืองนิวไทเปจัดขึ้นเป็นเวลา 17 วันติดต่อกัน มีทั้งการแสดงดอกไม้ไฟ ตลาดนัด และการแสดงอื่น ๆ เกือบร้อยรายการ
เบื้องต้นมีผู้ประกอบการให้ความสนใจนำร่องใช้ระบบการนำส่งข้อมูลภาษีอิเลคทรอนิกส์แล้ว จำนวน 5 ราย โดยกรมสรรพากร เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีผู้ประกอบการให้ความสนใจมากขึ้น ซึ่งเปิดรับผู้ให้บริการทั้งรายเล็ก รายใหญ่ และ start up เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม พร้อมสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือนำไประบบต่อยอดพัฒนา โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการลงทุนฯ ใช้หักลดหย่อนภาษีฯได้ถึง 2 เท่า คาดว่าในปีงบประมาณ 2566 จะจัดเก็บภาษีได้เกินกว่าประมาณการถึง 150,000 - 200,000 ล้านบาท