[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ผู้แปล/นงค์รักษ์ เหล่ากอคำ (李慧毓)
เมื่อเร็วๆนี้มีกรณีที่นายจ้างหรือคนกลางยังคงส่งเอกสารการจ้างงานไปยังกระทรวงแรงงาน เพื่อยื่นขอย้ายถิ่นฐานแรงงานผู้ดูแลหลังจากที่ผู้ได้รับการดูแลเสียชีวิต คุณเฉินซิ่นอวี้(陳信瑜) ผู้อำนวยการด้านแรงงานของเมืองไทเป เตือนว่า หลังจากที่ผู้ได้รับการดูแลเสียชีวิตแล้ว นายจ้างจำเป็นต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที พร้อมห้ามส่งเอกสารมาที่กระทรวงแรง มิฉะนั้นจะเป็นการส่งเอกสารให้ข้อมูลเท็จ อาจผิดกฎหมาย และตามที่ "กฎหมายบริการจัดหางาน" ระบุไว้จะมีโทษปรับขั้นต่ำ 300,000 ดอลลาร์ใหม่ไต้หวัน ปรับสูงสุดถึง 1.5 ล้านดอลลาร์ใหม่ไต้หวัน
ตามสถิติของสำนักงานแรงงาน ในช่วงสามปีที่ผ่านมา มีนายจ้างละเมิดมาตรา 5 วรรค 2 ข้อ 5 ของกฎหมายบริการจัดหางานทั้งหมด 5 กรณี โดยมีค่าปรับรวมเป็นเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์ใหม่ไต้หวัน และมีคนกลางฝ่าฝืนมาตรา 40 วรรค 1 ข้อ 8 ของกฎหมายบริการจัดหางานทั้งหมด 11 กรณี โดยมีจำนวนค่าปรับทั้งหมดอยู่ที่ 3.3 ล้านดอลลาร์ใหม่ไต้หวัน
คุณเฉินซิ่นอวี้(陳信瑜) ผู้อำนวยการด้านแรงงานของเมืองไทเปชี้ว่า เดิมทีนายจ้างมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะจ้างชาวต่างชาติได้ แต่พวกเขาถูกตัดสิทธิ์ เนื่องจากผู้ได้รับการดูแลเสียชีวิต ดังนั้นจึงไม่สามารถยื่นขอใบอนุญาตจัดหาแรงงานหรือใบอนุญาตจ้างงานกับกระทรวงแรงงานได้ ตามมาตรา 5 วรรค 2 ข้อ 5 ของ "กฎหมายบริการจัดหางาน" โดยนายจ้างที่ยื่นขอใบอนุญาตจัดหางาน ประกาศจัดหางาน หรือจัดการจ้างชาวต่างชาติ หากพวกเขาให้ข้อมูลหรือการตรวจทางการแพทย์ที่เป็นเท็จ จะมีโทษปรับขั้นต่ำ 300,000 และสูงสุด 1.5 ล้านดอลลาร์ใหม่ไต้หวัน
คนกลางที่ดูแลบริการจัดหางานแรงงานข้ามชาติ ควรช่วยเหลือนายจ้างในการตรวจสอบเอกสารทางกฎหมาย และให้ข้อมูลเอกสารที่แท้จริงในการกรอกแบบฟอร์มตามข้อบังคับ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องให้ทั้งสองฝ่ายต้องมาเสียค่าปรับจำนวนมากโดยที่ไม่มีเหตุจำเป็น