ตามข้อมูลจาก“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เปิดโครงการ “STGs เที่ยว 4 ดี ดีต่อโลก ดีต่อเรา” ดึง “เจมส์ จิรายุ” พรีเซ็นเตอร์ชวนเที่ยวไทยแบบ 4 ดี สิ่งแวดล้อมดี-วัฒนธรรมดี-เศรษฐกิจดี-ชีวิตดี พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรม Catch the Butterflies ลุ้นรับ VOUCHER โรงแรม ที่พักจากผู้ประกอบการ STAR ฟรี! และของรางวัลต่าง ๆ กว่า 1,000 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท ดีเดย์ปล่อย QR Code ผีเสื้อ STGs ในวันที่ 11-19 พ.ย. นี้ พร้อมกันผ่าน Facebook : Amazing Thailand และป้ายโฆษณา LED กว่า 2,000 จอทั่วประเทศนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท.เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกประสบวิกฤตปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากการสร้างมลภาวะและการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติ ซึ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเองก็มีส่วนร่วมในการสร้างผลกระทบดังกล่าว ททท.จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวให้เกิดความสมดุลในทุกมิติ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน โดยได้พัฒนาเป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือSustainable Tourism Goals: STGs17 ประการ ต่อยอดจากเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ (United Nations) โดยได้ดำเนินโครงการ Sustainable Tourism Acceleration Rating (STAR) เพื่อส่งเสริม ผลักดัน และยกระดับมาตรฐานสถานประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้นำ 17 เป้าหมายของ STGs ซึ่งครอบคลุมทั้ง 4 มิติ ในระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยว ประกอบด้วย มิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล มาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเร่งยกระดับห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในครั้งนี้ ททท.จึงได้จัดโครงการ“STGs เที่ยว 4ดี ดีต่อโลก ดีต่อเรา”โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง STGsสร้างเอกลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวสินค้าและบริการเชิงประสบการณ์สู่ความยั่งยืนด้วยนวัตกรรมมุ่งสู่ Smart Tourismพร้อมกระตุ้นให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวตื่นตัวในการเข้าร่วมโครงการ STAR โดยกำหนดเป้าหมายให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเข้าร่วมโครงการ ฯ กว่า 80% ภายในปี 2568ททท. จะมุ่งสื่อสารโครงการ “STGs เที่ยว 4ดี ดีต่อโลก ดีต่อเรา” แบบบูรณาการ 360 องศา เพื่อสร้างกระแสในวงกว้าง ครอบคลุมทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ตั้งแต่สื่อโทรทัศน์-วิทยุ สื่อ Out of Home กว่า 2,000 จอ ในพื้นที่ Prime Area ทั่วประเทศ อาทิ7-ELEVEN จอ Panoramix หน้าเซ็นทรัลเวิลด์สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ จำนวน 104 จอ จอดิจิตอลครอบคลุมพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจทั่วประเทศไทย กว่า 250 จอ สนามบินดอนเมือง 90 จอ สนามบินสุวรรณภูมิ 250 จอ และสนามบินภายในประเทศ 5 แห่ง 127 จอ รวมทั้งนำเสนอการเดินทางสร้างประสบการณ์ Meaningful Experience แบบ STGs ผ่านInfluencer, KOL, Youtuberโดยคาดว่าตลอดโครงการจะสามารถสร้างการรับรู้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว่า 60 ล้านคน-ครั้งอ่านข่าวเพิ่มเติม:ไต้หวันเปิดตัว “Taiwan Talent ศูนย์ให้บริการและสรรหาบุคลากรนานาชาติแบบเบ็ดเสร็จตามข้อมูลจาก “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” ในโอกาสเดียวกันนี้ ททท. ยังได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุด“STGs เที่ยว4ดี ดีต่อโลก ดีต่อเรา”นำแสดงโดย“เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข”ตัวแทนของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่จะมาชวนคนไทยทุกคนออกไปเที่ยวเมืองไทยแบบ 4 ดี ได้แก่สิ่งแวดล้อมดี :Dท่องเที่ยวแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบบ Low Carbon ลดการสร้างขยะ และทำกิจกรรมที่กระทบกับสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ผู้ประกอบการชุมชนใช้วัสดุจากธรรมชาติที่ย่อยสลายง่าย เพื่อให้เกิด zero wasteวัฒนธรรมดี :Dเคารพวิถีชุมชนร่วมงานประเพณีท้องถิ่น อวดอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของชุมชนให้คงอยู่ต่อไป ผู้ประกอบการชุมชนนำอัตลักษณ์ท้องถิ่นมาต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มได้เศรษฐกิจดี :Dสนับสนุนสินค้าและบริการในท้องถิ่น เที่ยวเมืองรองเพื่อกระจายรายได้ไปยังชุมชนต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ผู้ประกอบการชุมชนนำของดีท้องถิ่นเป็นจุดขาย มาทำให้เกิดการกระจายรายได้ที่ไม่กระจุกชีวิตดี :Dท่องเที่ยวอย่างเข้าใจชุมชนและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ช่วยเติมเต็มความสุขและยังช่วยดูแลโลกใบนี้ให้สวยงามต่อไป ผู้ประกอบการดูแลบริการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างดี เต็มไปด้วยรอยยิ้ม :Dรวมทั้งยังได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวไทยเลือกใช้บริการจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยที่ผ่านมาตรฐาน STGs จากโครงการ STAR ได้แก่ 1) กิจกรรม“CATCH THE STGs BUTTERFLIES”เพียง SCAN QR Code ผีเสื้อ STGs ลุ้นรับ VOUCHER จากผู้ประกอบการ STAR ฟรี! พร้อมรับส่วนลดและของที่ระลึกจาก ททท.อีกมากมายกว่า 1,000 รางวัล มูลค่ารวมทั้งสิ้น 2 ล้านบาท โดยจะปล่อย QR Code ผีเสื้อ พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 11-19 พ.ย. นี้ ผ่าน Facebook : Amazing Thailand และป้ายโฆษณา LED กว่า 2,000 จอทั่วประเทศ 2) กิจกรรมประกวดครีเอท VDO Clip ชวนเที่ยวไทยแบบยั่งยืน ในหัวข้อ “เที่ยวแบบ STGs ดีต่อเรา ดีต่อโลก”ทาง TikTok/Reels พร้อมติด hashtag #นักท่องเที่ยว STGs คลิปที่โดนใจ ลุ้นรับเลย VOUCHER จากผู้ประกอบการ STAR ฟรี!ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ FaceBook Fanpage: “Amazing Thailand” หรือร่วมอุดหนุนผู้ประกอบการ STAR ได้ที่www.tatstar.org
[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามข้อมูลจาก “กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข” แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มเยาวชน จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค โดยในปี 2565 คาดประมาณผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 9,230 คน ซึ่งเกือบครึ่งเป็นกลุ่มอายุ 15-24 ปี สร้างความกังวลให้ประชาชนและสังคม และอาจส่งผลในอนาคต กรมอนามัยได้ดำเนินการสร้างความรอบรู้ด้านเพศสำหรับเยาวชน “รักเป็น ปลอดภัย” ด้วย 4 แนวทาง ดังนี้ 1) Safe Virgin มีเพศสัมพันธ์เมื่อพร้อม 2) Safe Sex หากจะมีเพศสัมพันธ์ ตนเองต้องปลอดภัย ใส่ถุงยางอนามัยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 3) Safe Abortion หากพลาดตั้งครรภ์ไม่พร้อม ปรึกษาหน่วยบริการฯเพื่อรับคำปรึกษา และ 4) Safe Mom ฝากครรภ์คุณภาพ เพื่อลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัยอ่านข่าวเพิ่มเติม: ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แซวกันสนั่นโซเชียล ! ป้ายสีแดงหน้าร้านค้า อีกหนึ่งเรื่องตลกๆ ในไต้หวันตามข้อมูลจาก “กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข” ด้าน นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า วัยรุ่นไทยควรรู้จักรักให้เป็น รักให้ปลอดภัย รู้วิธีการดูแลเพื่อป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ด้วยการให้เกียรติและเคารพทุกเพศ ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกันสองต่อสองในที่ลับตาคน และมีสติอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอารมณ์ทางเพศซึ่งจะนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ตั้งใจ หรือหากจะมีเพศสัมพันธ์ต้องรู้จักวิธีป้องกันการตั้งครรภ์และการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยง ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และจะป้องกันได้ดีที่สุด ถ้าใช้ถุงยางอนามัยร่วมกับวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ยาฝังคุมกำเนิดหรือห่วงคุมกำเนิด กรมอนามัยแนะนำการปฏิเสธโดยใช้ประโยค “ไม่…ถ้าฉันท้องแล้วเธอจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไง?” เพราะการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ปฏิเสธได้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ท้องไม่พร้อม หรือ ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จะเกิดผลเสียระยะยาวในอนาคตทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครองควรเป็นที่พึ่งให้กับลูกหลาน เปิดโอกาสให้ลูกรู้ว่าเขาสามารถพูดคุยกับพ่อแม่ได้ทุกเรื่อง ไม่ต้องกังวล หากไม่สามารถตอบคำถามลูกได้ทุกคำถาม ให้ความสำคัญกับวิธีการโต้ตอบ ให้ลูกรู้ว่าเขาสามารถพูดคุยกับพ่อแม่ได้ทุกเรื่อง และมีทางออกที่เหมาะสมอ่านข่าวเพิ่มเติม: สถาบันวิจัยกล้วยไต้หวัน ผลักดันการแปรรูปผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากกล้วยดิบ เพื่อเพิ่มมูลค่า
ตามข้อมูลจาก “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” รัฐบาลเร่งพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เดินหน้าต่อยอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น Quick Win อำนวยความสะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย (Ease of Travelling) แก่นักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความร่วมมือของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ซึ่งขยายเวลาทำการของท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงไฮซีซั่นส่งท้ายปี 2566 นี้นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า การเปิดให้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ตลอด 24 ชั่วโมง จะช่วยเพิ่มการรองรับเที่ยวบินเส้นทางระหว่างประเทศที่เดินทางเข้าและออกประเทศไทยหลังเที่ยงคืน ส่งผลให้สายการบินระหว่างประเทศพิจารณาเพิ่มตารางการบินและเที่ยวบินสู่ประเทศไทย อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว (Ease of Travelling) เพิ่มศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มตลาดระยะใกล้และระยะไกล ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ให้สามารถเดินทางเข้าถึงได้อย่างสะดวกมากขึ้นในฐานะจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก ยังเป็นศูนย์กลางในการกระจายการท่องเที่ยวออกไปยังจังหวัดอื่นๆในภาคเหนือ ส่งผลดีต่อการกระจายรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคอีกด้วยทั้งนี้ ทอท. จะเปิดให้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป จากเดิมที่เปิดให้บริการ 18 ชั่วโมงต่อวัน หรือตั้งแต่เวลา 06.00 - 24.00 น. เพื่อรองรับจำนวนเที่ยวบินและจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซั่น ปลายปี 2566 โดยเพื่อเป็นการประกาศให้บริการ 24 ชั่วโมงของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คณะผู้บริหารของ ทอท.และผู้ร่วมกิจกรรม ได้ร่วมกันแจกของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสารสายการบินไทยเวียตเจ็ท เที่ยวบินที่ VZ 822 เส้นทาง เชียงใหม่ - โอซาก้า กำหนดออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 00.30 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 (คืนวันที่ 31 ตุลาคม 2566) เดินทางถึงท่าอากาศยานคันไซ (โอซาก้า) เวลา 07.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ด้วย โดย ทอท. จะเตรียมความพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก เจ้าหน้าที่ และระบบคมนาคมขนส่ง รวมทั้งจัดสรรพื้นที่ภายในท่าอากาศยานฯ แก่วิสาหกิจชุมชน เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นแก่นักท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึง ตลอดจนประสานงานร่วมกับสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาจัดตารางการบินให้เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ พร้อมกำหนดมาตรการดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วยมาตรการดังกล่าวจะเป็นกลไกสำคัญในการปลดล็อคข้อจำกัดด้านเวลาของการเดินทางทางอากาศของเส้นทางการบินระหว่างประเทศ สะท้อนศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มตลาดระยะใกล้และระยะไกล โดยคาดการณ์ว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศและผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ร้อยละ 30 ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ปัจจุบันท่าอากาศยานเชียงใหม่รองรับจำนวนเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศรวม 150 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 21,537 คนต่อวัน จากเส้นทางระหว่างประเทศ 18 เส้นทาง และเส้นทางภายในประเทศ 12 เส้นทาง โดยมีเส้นทางบินตรงระหว่างประเทศ ได้แก่ ไทเป, อินชอน, คุนหมิง, ปักกิ่ง, ฮ่องกง คาดว่าในเดือนเมษายนจะเพิ่มเส้นทางบินตรง ได้แก่ มุมไบและนิวเดลี รวมถึงมีขีดความสามารถในการรองรับปริมาณผู้โดยสาร 8 ล้านคนต่อปี และอยู่ขั้นตอนการศึกษาและออกแบบโครงการพัฒนา ระยะที่ 1 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 16.5 ล้านคนต่อปีอ่านข่าวเพิ่มเติม: ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แซวกันสนั่นโซเชียล ! ป้ายสีแดงหน้าร้านค้า อีกหนึ่งเรื่องตลกๆ ในไต้หวันอ่านข่าวเพิ่มเติม: สถาบันวิจัยกล้วยไต้หวัน ผลักดันการแปรรูปผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากกล้วยดิบ เพื่อเพิ่มมูลค่า