คณะกรรมการการเกษตรของไต้หวันกล่าวว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า อนุญาตให้นำเข้าฝรั่งจากไต้หวันได้ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. เป็นต้นไป ทำให้ไต้หวันกลายเป็นประเทศแรกในเอเชีย ที่สามารถส่งฝรั่งไปขายที่สหรัฐฯได้ โดยตั้งแต่ปี 2009 ไต้หวันได้ไต้หวันเริ่มเจรจาเพื่อขอส่งฝรั่งไปขายที่สหรัฐฯ กับรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากนั้นรัฐบาลสหรัฐได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบการเพาะปลูกฝรั่งที่ไต้หวัน โดยทั้งสองฝั่งใช้เวลาสื่อสารและเจรจาอยู่นาน จนในที่สุดวันนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ อนุญาตให้นำเข้าฝรั่งจากไต้หวันได้แล้ว
คณะกรรมการการเกษตรของไต้หวันอธิบายว่า เนื่องจากไต้หวันตั้งอยู่ในเอเชียที่มีการระบาดของแมลงวันผลไม้ในฟักทอง และเมล่อน อีกทั้งฝรั่งยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของแมลงวันผลไม้ด้วย ดังนั้นการจะส่งไปขายที่สหรัฐฯ จะต้องผ่านมาตรฐานของสหรัฐด้วยฯ ดังนั้น คณะกรรมการการเกษตรของไต้หวันจึงได้พัฒนาเทคโนโลยีการฆ่าแมลงที่อุณหภูมิต่ำสำหรับฆ่าแมลงวันผลไม้ การควบคุมคุณภาพของฝรั่ง การเตรียมวัสดุการเพาะปลูก รายการศัตรูพืช และมาตรการป้องกัน หลังจากนั้นจึงได้เริ่มเจรจาเพื่อขอส่งฝรั่งไปขายที่สหรัฐฯ หลังจากที่สหรัฐฯ ทำการตรวจสอบข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษรก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบการเพาะปลูกฝรั่งที่ไต้หวัน โดยทั้งสองฝั่งใช้เวลาสื่อสารและเจรจาอยู่นานกว่า 10 ปี จนในที่สุดก็อนุญาตให้นำเข้าฝรั่งจากไต้หวัน
คณะกรรมการการเกษตรของไต้หวันเน้นย้ำว่า ฝรั่งเป็นผลไม้ที่สำคัญของไต้หวัน มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินซีมากกว่าแอปเปิ้ล 50 เท่า และกีวี 4 เท่า เป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ เกษตรกรใช้การตัดแต่งกิ่งเพื่อปรับระยะเวลาให้ออกผลตลอดทั้งปี โดยมีปริมากว่า 180,000 ตัน ปัจจุบันฝรั่งของไต้หวันสามารถส่งไปขายในหลายประเทศ ได้แก่ แคนาดา, จีน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, มาเก๊า, บรูไน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน, อินโดนีเซีย และเนเธอร์แลนด์ และในวันนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ อนุญาตให้นำเข้าฝรั่งจากไต้หวัน ก็เป็นการขยายตลาดส่งออกผลไม้ไต้หวันในต่างประเทศแห่งใหม่