ประเทศแหล่งที่มาของแรงงานข้ามชาติถูกจัดระดับคำแนะนำเพื่อการท่องเที่ยวอยู่ในระดับที่ 3 นครไถจงเรียกร้องให้นายจ้างดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.เป็นต้นไป ห้ามบุคคลชาวต่างประเทศ เดินทางเข้ามาไต้หวัน (ยกเว้นผู้ที่ถือบัตรถิ่นที่อยู่ เจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ นักการทูตและครอบครัว) โดยผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ รวมทั้งชาวไต้หวันจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และไทยเป็นแหล่งที่มาของแรงงานข้ามชาติในไต้หวันและถูกจัดระดับคำแนะนำเพื่อการท่องเที่ยวอยู่ในระดับที่ 3 ซึ่งจะต้องทำตามแผนการกักกันโรคแรงงานข้ามชาติของกระทรวงแรงงานหากเดินทางเข้ามา สำนักแรงงาน รัฐบาลนครไถจงได้ขอให้นายจ้างดูแลชาวต่างชาติอย่างเต็มที่ และให้ความร่วมมือกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างครอบคลุม

สำนักแรงงานนครไถจงกล่าวว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อและลดการเคลื่อนย้ายของแรงงานข้ามชาติใหม่เข้ามายังไต้หวัน กระทรวงแรงงานไต้หวันได้ส่งเสริมให้นายจ้างต่ออายุการจ้างงานของแรงงานข้ามชาติเพื่อใช้แรงงานคนเดิมต่อไป และสนับสนุนนายจ้างที่มีความต้องการจ้างงานแรงงานข้ามชาติ ให้ว่าจ้างแรงงานข้ามชาติที่อยู่ในไต้หวันอยู่แล้ว (โอนย้ายแรงงานข้ามชาติ) แทนที่การจ้างแรงงานใหม่จากต่างประเทศ สำหรับผู้อนุบาลข้ามชาติที่ทำงานในไต้หวันครบ 14 ปี และแรงงานข้ามชาติประเภทอื่นๆ ครบ 12 ปี นายจ้างสามารถยื่นขอต่อระยะเวลาการทำงานกับกระทรวงแรงงานเป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อให้แรงงานข้ามชาติได้ทำงานในไต้หวันต่อไปในช่วงการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

นอกจากนี้ สำหรับแรงงานข้ามชาติที่ทำงานในไต้หวันอยู่แล้ว หากมีแผนเดินทางกลับประเทศเพื่อพักร้อน ก็ขอให้นายจ้างเจรจากับแรงงานข้ามชาติว่าอย่าพึ่งกลับประเทศชั่วคราวในช่วงเวลาของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เพื่อหลีกเลี่ยงการกักกันตนเองที่บ้านหลังจากกลับเข้ามาไต้หวันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แรงงานข้ามชาติที่ยินดีที่จะร่วมมือกับมาตรการป้องกันโรค โดยมีการเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทางกลับประเทศ แต่มีการจองตั๋วเครื่องบินแล้วทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม กระทรวงแรงงานอนุญาติให้ยื่นขอรับเงินชดเชยในส่วนนี้จากกองทุนเพื่อความมั่นคงในการทำงาน

สำนักแรงงานยังกล่าวอีกว่า เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่ของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค กระทรวงแรงงานได้จัดทำแผนการกักกันโรคแรงงานข้ามชาติ โดยในช่วงที่แรงงานข้ามชาติยื่นขอใบอนุญาติทำงาน ขอวีซ่า และรับแรงงานที่สนามบิน ต้องรายงานแผนการกักกันโรคแรงงานข้ามชาติด้วย เพื่อให้แน่ใจว่านายจ้างมีความสามารถในการจัดการกักกันแรงงานข้ามชาติที่บ้าน หากนายจ้างมีปัญหาในการดำเนินการก็ต้องขอให้บริษัทจัดหางานขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้กระทรวงแรงงานยังกำหนดให้เจ้าหน้าที่ที่สนามบินช่วยแปลและดำเนินการเอกสารที่เกี่ยวข้อง แลต้องแน่ใจว่าแรงงานข้ามชาติจะไม่ใช้บริการขนส่งสาธารณะไปยังสถานที่ของนายจ้าง

นายอู๋ เวยจื่อ (吳威志) ผู้อำนวยการสำนักแรงงานเรียกร้องให้นายจ้างและบริษัทจัดหางาน ก่อนที่จะนำแรงงานข้ามชาติเข้ามา ให้เตรียมสถานที่กักกันโรคก่อน มิเช่นนั้นก็ควรเลื่อนกำหนดการออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษหลังจากล้มเหลวในการดำเนินการกักกันที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน สำหรับนายจ้างที่ไม่จ้างแรงงานข้ามชาติจากต่างประเทศชั่วคราว กระทรวงแรงงานจะยังรักษาโควต้าไว้ โดยนายจ้างสามารถยื่นขอต่อกระทรวงแรงงานเพื่อขยายระยะเวลาการนำเข้าแรงงานข้ามชาติ 3 เดือนหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

นายอู๋กล่าวอีกว่า หากพบว่านายจ้างมีการนำเข้าแรงงานข้ามชาติ แต่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ในการดูแลชาวต่างชาติสำนักงานแรงงานจะลงโทษนายจ้างตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของกฎหมายการบริการจัดหางาน โดยปรับเป็นเงินระหว่าง 60,000 ถึง 300,000 เหรียญไต้หวัน จึงขอเตือนให้นายจ้างปฎิบัติตามกฎระเบียบด้วย

สำหรับแผนการกักกันโรคแรงงานข้ามชาติของกระทรวงแรงงาน สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์กระทรวงแรงงานไต้หวัน