แพทย์โรงพยาบาลจงซาน ระบุว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคที่พบมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในไต้หวัน เป็นเวลา 15 ปีติดต่อกันแล้ว และเกิดในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ โดย ผู้ป่วยหลายๆ ราย ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ และกินเนื้อสัตว์น้อย แต่ก็ยังป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำให้หลายคนรู้สึกสับสนว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แพทย์ชี้ว่า นิสัยที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาอย่างหนึ่งของคนไต้หวัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้
แพทย์โรงพยาบาลจงซาน ระบุว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่เป็นประจำ การรับประทานเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดง และเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการ ล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ หากผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมข้างต้น แต่ยังคงป่วยเป็นโรคนี้ล่ะก็ มักเกี่ยวข้องกับการบริโภคน้ำตาลในแต่ละวัน เนื่องจากการรับประทานน้ำตาลมาก จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง จนนำไปสู่ภาวะดื้ออินซูลิน และสะสมเป็นไขมันในร่างกาย นำไปสู่การอักเสบเรื้อรัง
แพทย์เตือน การบริโภคเครื่องดื่มหวานๆ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ส่งผลต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ภาพ/จากคลังภาพ Pixabay
อ่านข่าวเพิ่มเติม:ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก กรมควบคุมโรคเตือนประชาชนรีบฉีดวัคซีนป้องกัน !
เนื่องจากหลายๆ คน มีพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มหวานๆ จนเคยชิน คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แพทย์ จึงอยากแนะนำประชาชนให้หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเอง หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง โดยสามารถค่อยๆ ปรับพฤติกรรม โดยการลดปริมาณน้ำตาลลง หรือ นานๆ รับประทานที ก็จะดีมาก