ศบค.ชี้แจงการสแกน"ไทยชนะ" ในการเข้าใช้บริการทุกร้านค้า เพื่อให้สะดวกต่อการติดตามกลุ่มเสี่ยง หากพบมีผู้ติดเชื้อโควิด-19

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชี้แจงถึงการลงทะเบียนใช้งาน แพลตฟอร์มไทยชนะที่ต้องสแกนคิวอาร์โค้ดเข้าใช้บริการทั้งในส่วนของห้างสรรพสินค้าและทุกร้านค้าย่อย เพราะผู้มาใช้บริการห้างสรรพสินค้ามีจำนวนมาก หากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะทำให้การตรวจสอบผู้มีความเสี่ยงทำได้ยาก และต้องติดตามตรวจหาเชื้อจากคนจำนวนมาก แต่การสแกนในร้านค้าย่อยๆ จะทำให้สามารถจำกัดกลุ่มเสี่ยงมาตรวจติดตามได้ง่ายกว่า อีกทั้งจะช่วยให้ไม่ต้องตรวจหรือปิดการให้บริการที่เป็นกลุ่มใหญ่ ปิดเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น ส่วนร้านค้าที่ไม่ร่วมลงทะเบียนในไทยชนะ จะมีความผิดหรือไม่นั้น ยืนยันว่า เป็นการขอความร่วมมือ เนื่องจากระบบนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกและเป็นผลดีต่อทั้งผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการและสังคมส่วนรวม ตลอดจนเป็นตัวช่วยในการติดตามตัว หากพบการติดเชื้อ ทั้งนี้สาเหตุที่แพลตฟอร์มไทยชนะ ต้องเก็บข้อมูลประชาชนไว้ถึง 60 วัน ทั้งที่เชื้อโรคโควิด-19 มีระยะฟักตัวประมาณ 14 วันนั้น เนื่องจากได้วิเคราะห์กรณีสนามมวย แล้วพบว่า มีกลุ่มติดเชื้อต่อกันเป็นรุ่นๆ ถึง 4 รุ่น ดังนั้นเมื่อคำนวณแล้วจะครอบคลุมระยะเวลาประมาณ 60 วัน

สำหรับกรณีที่บางกิจการยังไม่ได้รับการผ่อนปรนให้เปิดบริการได้นั้น ยืนยัน ทาง ศบค.มีการพูดคุยในรายละเอียด ใช้ข้อมูลมาแบ่งในแต่ละระยะ ประเมินจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ที่หากไม่เพิ่มสูงขึ้นและเป็นเลขตัวเดียว การผ่อนปรนระยะที่ 3 และ 4 ก็จะเกิดขึ้น ระหว่างนี้จึงฝากให้เจ้าของกิจการเตรียมพร้อมวิธีปรับปรุงการให้บริการ หรือนวัตกรรมที่ช่วยป้องกันการระบาด

ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์