เมื่อวันที่ 28 พ.ย. เวลา 15.00 น. ที่ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสห้าแยกลาดพร้าว เขตจตุจักร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและตรวจสอบความพร้อมก่อนเปิดทดลองให้บริการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 4 สถานี ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 24 สถานีรัชโยธิน สถานีเสนานิคม และสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง ผู้บริหารบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และผู้บริหารบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BTSC ร่วมตรวจเยี่ยม
กรุงเทพมหานครพร้อมด้วย บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) ร่วมตรวจความพร้อมก่อนเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 4 สถานี ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 24 (N10) สถานีรัชโยธิน (N11) สถานีเสนานิคม (N12) และสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (N13) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดีรังสิต โดยจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้บริการผู้โดยสาร ได้แก่ บันไดเลื่อน กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ ประกอบด้วย ลิฟต์โดยสาร ห้องน้ำสำหรับผู้พิการ พื้นผิวสัมผัสสำหรับผู้บกพร่องทางการมองเห็น ทางลาดรถเข็นสำหรับผู้พิการ ราวจับสำหรับผู้พิการ รวมถึงจุดเว้าเพื่อจอดรถรับ-ส่ง ปัจจุบันความคืบหน้าการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จเกือบ 100 % ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบเดินระบบรถไฟฟ้าและเก็บรายละเอียดเพียงเล็กน้อย ที่ผ่านมาบีทีเอส ได้ดำเนินการทดลองเดินรถเปล่าเพื่อทดสอบระบบอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 1 เดือน ทั้งนี้ การเปิดทดลองจะให้บริการฟรีไม่เก็บค่าโดยสารจนถึงวันที่ 2 ม.ค.63 ส่วนอัตราค่าโดยสารยังไม่ได้กำหนด จนกว่าการหารือเรื่องสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าระหว่างกรุงเทพมหานคร และบีทีเอสจะแล้วเสร็จ โดยกำหนดเพดานอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าตลอดสายสูงสุดไม่เกิน 65 บาท
สำหรับรูปแบบการเดินรถ แบ่งระยะเวลาการให้บริการเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเวลาเร่งด่วน (Peak) ในตอนเช้า ตั้งแต่เวลา 07.00 - 09.00 น. และในตอนเย็น ตั้งแต่เวลา 16.30 - 20.00 น. โดยในช่วงเวลาเร่งด่วน จะให้บริการเดินรถตั้งแต่สถานีเคหะสมุทรปราการ (E23) ไปตามเส้นทางสายสุขุมวิทจนถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (N13) แล้วกลับรถวิ่งให้บริการในเส้นทางเดิมไปจนถึงเคหะสมุทรปราการ (E23) ซึ่งจะวิ่งสลับแบบ 1 ต่อ 1 กับขบวนรถไฟฟ้าที่วิ่งให้บริการในเส้นทางสถานีหมอชิต (N8) ถึงสถานีสำโรง (E15) ส่วนนอกเวลาเร่งด่วน และวันหยุด (เสาร์-อาทิตย์) จะให้บริการตั้งแต่สถานีเคหะสมุทรปราการ (E23) ไปตามเส้นทางสายสุขุมวิทจนถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (N13) แล้วกลับรถวิ่งให้บริการในเส้นทางเดิมไปจนถึงเคหะสมุทรปราการ (E23)
ข้อมูลข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์