อุทยานธรณีเกาะเหอผิงเมืองจีหลง คว้ารางวัลการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจากเวทีระดับนานาชาติ

เมื่อไม่นานมากนี้ “อุทยานธรณีเกาะเหอผิง”ของไต้หวันเพิ่งได้รับรางวัล PATA Gold Awards 2023 ในสาขา “ความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม－การปรับตัวฟื้นฟูของจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก” จากสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (PATA) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่โครงการด้านการท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นในสาขาต่างๆและประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก

ภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามบนเกาะเหอผิง ภาพ／จากกรมการท่องเที่ยว

กรมการท่องเที่ยว กระทรวงคมนาคม เผยว่า อุทยานธรณีเกาะเหอผิง เมืองจีหลง ถูกขนานนามว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในโลก อุทยานแห่งนี้อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ อนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรม และความหลากหลายทางชีวภาพ มรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ ถือเป็นขุมทรัพย์อันล้ำค่าที่คู่ควรแก่การบำรุงรักษาไว้ สำนักงานบริหารจัดการพื้นที่จุดชมวิวแห่งชาติชายฝั่งทางเหนือและภูเขาเจ้าแม่กวนอิม กรมการท่องเที่ยว กระทรวงคมนาคม จึงได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวในพื้นที่ มีการร่วมมือกับทีมงานในท้องถิ่นบริการจัดการการท่องเที่ยวโดยยึดแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเป็นหลัก และมีการจำกัดช่วงเวลาเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายนเพียง 5 เดือนเท่านั้น ทั้งยังฝึกอบรมผู้อาวุโสในท้องถิ่นให้ทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยว การทำงานร่วมกับชุมชน นอกจากจะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความงดงามของอ่าวอาลาเป่าแล้ว ยังทำให้เกาะเหอผิงแห่งนี้กลายเป็น "เกาะท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับนานาชาติ" ได้อีกด้วย

อุทยานธรณีเกาะเหอผิงจะเปิดเฉพาะในเดือนพฤษภาคมถึงกันยายนเท่านั้น ภาพ／จากกรมการท่องเที่ยว

อ่านข่าวเพิ่มเติม： “ขบวนรถไฟสีน้ำเงิน─ย้อนความทรงจำ” พร้อมออกเดินทางแล้ว !

กรมการท่องเที่ยวกล่าวว่า การได้รับรางวัล PATA Gold Awards ที่จัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก(PATA) ในครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องการันตีว่า ความพยายามในการพัฒนาการท่องเที่ยวของไต้หวันนั้น เป็นที่ยอมรับในระดับสากล กรมการท่องเที่ยวยังระบุอีกว่า จะมุ่งมั่นส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพสภาพแวดล้อมการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาศักยภาพชุมชนในการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป โดยให้ความสำคัญกับสมดุลระหว่างการท่องเที่ยวและการรักษาดูแลระบบนิเวศ และหวังว่าจะอาศัยสิ่งแวดล้อมศึกษา เป็นเครื่องมือช่วยให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้รู้จักเกาะล้ำค่าแห่งนี้ ทั้งยังหวังอีกด้วยว่า การเข้าร่วมกับองค์กรต่างประเทศ จะสามารถทำให้ไต้หวันเฉิดฉายบนเวทีระดับนานาชาติได้