img
:::

กิจกรรมอบรมเสริมสมรรถนะครูปฐมวัย รุ่นที่ 1 ภายใต้โครงการภาคี ดาว-อีเอฟ พัฒนาเด็ก กทม.

ภาพ/นำมาจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร
ภาพ/นำมาจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร

[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามรายงานของ “สำนักงานประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร”  นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมอบรมเสริมสมรรถนะครูปฐมวัย รุ่นที่ 1 ครูปฐมวัยระดับชั้นอนุบาล (อายุ 3-6 ปี) ภายใต้โครงการภาคี ดาว-อีเอฟ พัฒนาเด็ก กทม. (Dow EF Bangkok Partnership) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) สถาบันรักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป และภาคีเครือข่าย จัดขึ้นเพื่อเพิ่มเติมและเสริมสร้างความรู้ให้แก่บุคลากรด้านการศึกษา ที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงดู การดูแลพัฒนาเด็กและเยาวชน นำความรู้ เรื่อง EF ไปใช้ในการพัฒนาเด็ก สร้างมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย (Early Childhood Education) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการปูพื้นฐานการศึกษาให้เด็ก ดูแลเด็กเล็กให้ได้มากขึ้น และมีคุณภาพมากขึ้น โดย นางภรณี กองอมรภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นายสุรชาติ เล็กน้อย ผู้บริหาร สถาบัน RLG (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) ผู้บริหารสำนักการศึกษา ผู้บริหารสำนักงานเขตหนองแขม และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีเปิด ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

อ่านข่าวเพิ่มเติม : หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและด่านตรวจของสิงคโปร์ได้รวมไต้หวันไว้ในระบบพิธีการศุลกากรอัตโนมัติแล้ว

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การอบรมวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ครูทุกคนเป็นคนสำคัญและเป็นผู้เปลี่ยนแปลง และมีหลักสูตรต่าง ๆ มาให้ครูเรียนรู้อยู่บ่อย ๆ หลักสูตรนี้มีความสำเร็จและบทพิสูจน์มาแล้ว สำหรับวันนี้มีสิ่งที่อยากพูด คือ เรื่องแรกนโยบายด้านเด็กอายุ 0-8 ปี ซึ่งสำคัญมากเพราะปัจจุบันเด็กเกิดน้อยลง แต่มีผู้สูงอายุมากขึ้น เด็กน้อยลงแต่จำนวนโรงเรียนและครูเท่าเดิม ดังนั้นต้องมีความใส่ใจต่อเด็กมากขึ้น กรุงเทพมหานครมองว่านี่เป็นโอกาสในการทำการเรียนการสอนให้ละเอียดขึ้น ดูแลเด็กได้ดีขึ้น และเรื่องที่สอง ทำอย่างไรให้หลักสูตรมีความละเอียด และ outcome ของเด็กมีความหลากหลายมากขึ้น หลายปัญหาเกิดจากการมุ่งเน้นปลายเหตุ ต้นเหตุจริง ๆ คือเด็กปฐมวัย การเลี้ยงลูกและการเติบโตของเด็กในช่วงอายุ 0-3 ปี เป็นช่วงสำคัญที่ยังไม่ได้รับการดูแลอย่างเป็นรูปธรรมมากนัก สิ่งที่กรุงเทพมหานครพยามยามทำคือการสนับสนุนศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ซึ่งกรุงเทพมหานครมีศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนอยู่ 278 ศูนย์ แต่ถ้าดูจากจำนวนทั้งหมดเด็กอายุ 0-3 ปี อยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแค่ 18,000 คน จึงได้เน้นย้ำให้มีการดูแลใส่ใจ ให้คุณค่า และคุณภาพที่ดีขึ้น

 อ่านข่าวเพิ่มเติม : ไต้หวันอนุมัติบริษัทโอนเงินข้ามพรมแดนรายที่ 3 แรงงานเวียดนาม อินโดฯ โอนเงินกลับบ้านสะดวก

สำหรับโครงการนี้ทางดาวและรักลูกและเครือข่ายได้ทำมาก่อนแล้ว และได้นำความสำเร็จมาขยายผลสู่โรงเรียนอนุบาลในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเริ่มที่ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของกรุงเทพมหานครในเขตหนองแขมก่อน ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ตั้งเป้าในการปรับกายภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก็จะเร่งผลักดันงบประมาณในการดำเนินการเพื่อให้เด็กมีสุขอนามัยและมีพื้นฐานทางกายภาพที่ดี ซึ่งในปีหน้าเขตจะต้องเร่งทำเรื่องการปรับปรุงศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ส่วนเรื่องหลักสูตรการเรียนการสอนนั้น หลายคนเคยตั้งคำถามว่าเด็กแค่ไปกินหรือนอนใช่ไหม อยากบอกว่าไม่ใช่แค่เรื่องการกินหรือการนอนแต่มีการคิดถึงหลักสูตรสำหรับเด็กอย่างละเอียด โดยในช่วง 3-4 ปีนี้จะเน้นเรื่องเด็กอายุ 0-8 ปี ให้ได้มากขึ้น ขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันขับเคลื่อนงานในวันนี้ และในอนาคตคาดว่าจะมีการขยายผลต่อไป

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading