[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามรายงานของ “สำนักงานประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานพิธีเปิดกิจกรรมต้นแบบในย่านสร้างสรรค์งาน “เกษตรแฟร์หนองจอก @ คลองลำไทร” โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายไพโรจน์ จันทรอด ผู้อำนวยการเขตหนองจอก พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตหนองจอก ภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกิจกรรม ณ ถนนลำไทร เขตหนองจอก
อ่านข่าวเพิ่มเติม : หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและด่านตรวจของสิงคโปร์ได้รวมไต้หวันไว้ในระบบพิธีการศุลกากรอัตโนมัติแล้ว
ขับเคลื่อนพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ “ย่านคลองลำไทร” จะมีลำคลองเป็นอัตลักษณ์ และมีศูนย์การเรียนรู้ที่เข้มแข็ง รวมทั้งมีร้านอาหารและคาเฟ่รวมอยู่ในแหล่งเดียวกัน ประกอบด้วย 1.ศูนย์การเรียนรู้บ้านครูแดง เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงตามศาสตร์พระราชา 2.ศูนย์การเรียนรู้ลำไทรฟาร์ม เป็นแหล่งเรียนรู้การเพาะเลี้ยงสัตว์ปีกสวยงาม เช่น หงส์ดำ เป็ดแมนดาริน นกแก้วริงเนค 3.ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำแขวงโคกแฝด ต้นแบบการอัดฟางก้อน ลดการเผาตอซัง 4.ศูนย์การเรียนรู้ไส้กรอกยุคหิน P.K. เรียนรู้การต่อยอดธุรกิจ สร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้คนในชุมชน และ 5.ร้านอาหารอะเกนพลีสคาเฟ่ (Again Please Cafe) ความหลากหลายของเมนูอาหารเข้าถึงทุกเพศทุกวัย สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการของศูนย์เรียนรู้ในย่านคลองลำไทรทั้ง 4 แห่ง ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำแขวง เครือข่ายโรงเรียนในพื้นที่เขตหนองจอก การออกร้านจำหน่ายสินค้าของชุมชน ของกินของดีเขตหนองจอก สินค้า OTOP จากกลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก และสินค้าจาก FBT และ CP ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในพื้นที่นำสินค้ามาจำหน่ายในราคาถูก
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ไต้หวันอนุมัติบริษัทโอนเงินข้ามพรมแดนรายที่ 3 แรงงานเวียดนาม อินโดฯ โอนเงินกลับบ้านสะดวก
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กิจกรรมต้นแบบย่านสร้างสรรค์งาน “เกษตรแฟร์หนองจอก @ คลองลำไทร” ในวันนี้ นับว่าเป็นการพัฒนาส่งเสริม “ย่านคลองลำไทร” เขตหนองจอก ให้เป็นย่านที่มีอัตลักษณ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวหรือผู้มาเยือนให้เกิดความประทับใจ กระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน ซึ่งพื้นที่เขตหนองจอก เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ที่มีอัตลักษณ์ด้านการเกษตรอย่างแท้จริง ซึ่งจะแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ของกรุงเทพมหานคร ขอให้จัดกิจกรรมเช่นนี้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี หวังว่ากิจกรรมนี้ จะทำให้ “ย่านคลองลำไทร” เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการสร้างรายได้แก่ประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนย่านนี้ให้ดียิ่งขึ้น
