img
:::

อ้วนลงพุงอันตราย! 5 เคล็ดลับช่วยลดน้ำหนักอย่างสุขภาพดี ห่างไกลความเสี่ยง

ในบรรดาไขมันทั่วร่างกาย ไขมันหน้าท้องเป็นสิ่งที่ควรลดมากที่สุด (ภาพ/ได้รับการสนับสนุนโดย Heho Health)
ในบรรดาไขมันทั่วร่างกาย ไขมันหน้าท้องเป็นสิ่งที่ควรลดมากที่สุด (ภาพ/ได้รับการสนับสนุนโดย Heho Health)

เมื่ออากาศเริ่มอุ่นขึ้น หลายคนก็ปิดบังพุงน้อย ๆ และห่วงยางรอบเอวของตัวเองได้ยากขึ้น ในบรรดาไขมันทั่วร่างกาย ไขมันหน้าท้องเป็นสิ่งที่ควรลดมากที่สุด เพราะไม่เพียงแต่จะดูไม่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นไขมันที่อันตรายที่สุด สามารถนำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคต่อมไร้ท่อ และโรคการเผาผลาญได้ ไม่ว่าจะอ้วนหรือผอม ไขมันหน้าท้องก็ยังเป็นปัญหาที่พบบ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันในช่องท้อง เมื่อปริมาณแคลอรีที่ได้รับมากกว่าการเผาผลาญ พลังงานส่วนเกินจะถูกเก็บไว้ในช่องท้อง ส่งผลให้พุงยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

เคล็ดลับ 1: ควบคุมระยะเวลาการนอนหลับ
แม้ว่าไขมันหน้าท้องจะยากที่จะลดได้เฉพาะจุด แต่ก็อาจเพิ่มขึ้นได้หากนอนหลับไม่เพียงพอหรือมากเกินไป เวลานอนที่ดีที่สุดคือ 6-8 ชั่วโมง การนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงหรือมากกว่า 8 ชั่วโมงอาจทำให้ไขมันหน้าท้องเพิ่มขึ้นได้ เคล็ดลับการนอนหลับที่มีคุณภาพ ได้แก่ หลีกเลี่ยงการนอนดึก ไม่เล่นโทรศัพท์ก่อนนอน ปรับอุณหภูมิห้อง และรักษาจิตใจให้สงบผ่อนคลายการนอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมงหรือมากกว่า 8 ชั่วโมงอาจทำให้ไขมันหน้าท้องเพิ่มขึ้น (ภาพ/ได้รับการสนับสนุนโดย Heho Health)

เคล็ดลับ 2: หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำลายสุขภาพปอดเท่านั้น แต่ยังทำให้ไขมันสะสมในช่องท้องได้ง่ายกว่าในต้นขาหรือสะโพก การเลิกบุหรี่จะไม่ทำให้คุณอ้วนขึ้น ในทางตรงกันข้าม การสูบบุหรี่จะยิ่งทำให้เอวและหน้าท้องของคุณขยายใหญ่ขึ้น ดังนั้นการเลิกบุหรี่จึงเป็นขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการลดไขมันหน้าท้อง

เคล็ดลับ 3: ดื่มน้ำมากขึ้นแทนเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
แอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมีปริมาณแคลอรีสูง และอาจกระตุ้นให้คุณกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น แนะนำให้คำนวณปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวันด้วยการคูณน้ำหนักตัวด้วย 40 ตัวอย่างเช่น คนที่มีน้ำหนัก 60 กิโลกรัมควรดื่มน้ำ 2,400 ซีซีต่อวัน และดื่มน้ำประมาณ 200 ซีซีทุก ๆ 20 นาที เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดีและส่งเสริมการเผาผลาญ

เคล็ดลับ 4: การฝึกยกน้ำหนัก
การฝึกยกน้ำหนักอาจมีประสิทธิภาพในการลดไขมันหน้าท้องได้ดีกว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ จากการวิจัยพบว่า ผู้ชายวัยกลางคนที่ฝึกยกน้ำหนัก 20 นาทีต่อวัน มีไขมันหน้าท้องน้อยกว่าผู้ที่ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในเวลาเท่ากัน ผู้หญิงก็ควรฝึกยกน้ำหนักเช่นกัน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะกลายเป็น "สาวกล้ามโต" เนื่องจากผู้หญิงจะสร้างกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ได้ยากเพราะฮอร์โมนเพศ ควรผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและการฝึกยกน้ำหนัก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นการฝึกยกน้ำหนักอาจมีประสิทธิภาพในการลดไขมันหน้าท้องได้ดีกว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (ภาพ/ได้รับการสนับสนุนโดย Heho Health)

เคล็ดลับ 5: รักษาจิตใจให้สงบ
ความเครียดและความกังวลอาจทำให้ไขมันในช่องท้องเพิ่มขึ้นได้ การใช้วิธีคลายเครียดอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญ หลีกเลี่ยงการกินมากเกินไปและดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบรรเทาความเครียด เพราะจะยิ่งทำให้ปัญหาความอ้วนรุนแรงมากขึ้น การรักษาจิตใจให้สงบช่วยลดการสะสมของไขมันในช่องท้องได้

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading