img
:::

บริษัท ท่าอากาศยานไทยขอความร่วมมือผู้โดยสารไม่นำแบตเตอรี่ลิเธียม สำรองที่มีค่าความจุไฟฟ้าเกินกำหนดขึ้นเครื่องบิน

บริษัท ท่าอากาศยานไทยขอความร่วมมือผู้โดยสารไม่นำแบตเตอรี่ลิเธียม สำรองที่มีค่าความจุไฟฟ้าเกินกำหนดขึ้นเครื่องบิน

ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. แจ้งว่า ตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. ถึงหลักเกณฑ์ การพาแบตเตอรี่ลิเธียมไปกับอากาศยาน พ.ศ.2559 โดยแบตเตอรี่ลิเธียม สำรองขนาดเล็กที่มีค่าความจุไฟฟ้าน้อยกว่า หรือเท่ากับ 100 Wh หรือ 20,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ 

ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดกลาง ที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 100 ถึง 160 Wh หรือ 20,000 ถึง 32,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ และแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดใหญ่ที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 160 Wh หรือ 32,000 mAh ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบินและโหลดใต้ท้องเครื่องบิน 

นอกจากนี้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองที่ไม่ระบุพลังงานไฟฟ้า วัตต์ - ชั่วโมง (Wh) หรือระบุขนาดบรรจุของลิเธียม หรือระบุไม่ชัดเจนไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบิน หรือโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ทั้งสิ้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการดังกล่าว ทอท. จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารไม่นำแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองที่มีค่าความจุไฟฟ้าเกินกว่ากำหนดขึ้นเครื่องบิน

อย่างไรก็ตาม หากผู้โดยสารมีความจำเป็น ในการนำแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่าที่ กพท.กำหนดขึ้นเครื่องบิน ควรสอบถามรายละเอียดและแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินที่ใช้บริการทราบล่วงหน้าในขณะที่ทำการสำรองที่นั่ง ทั้งนี้ทอท. และท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ได้ปฏิบัติตามประกาศของ กพท.เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ใช้บริการและผู้โดยสาร  

ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์

บริษัท ท่าอากาศยานไทยขอความร่วมมือผู้โดยสารไม่นำแบตเตอรี่ลิเธียม สำรองที่มีค่าความจุไฟฟ้าเกินกำหนดขึ้นเครื่องบิน (ภาพจาก pixabay)

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading