[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามข้อมูลจาก “กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข” นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงปลายฝนต้นหนาว มีโอกาสพบโรคติดต่อได้หลายโรค หนึ่งในนั้นคือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส (Respiratory Syncytial Virus : RSV) โดยโรคนี้จะติดต่อจากการไอจาม โดยการสัมผัสน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย เชื้อไวรัสอาร์เอสวีเข้าผ่านทางจมูก ปาก เยื่อบุตา หรือการสัมผัสสิ่งของ เช่น ของเล่น ภาชนะที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย ผู้ที่ได้รับเชื้อมักมีระยะฟักตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 4-6 วัน หลังได้รับเชื้อ ผู้ติดเชื้อสามารถแพร่กระจายเชื้อได้นาน 3-8 วัน
โรคนี้สามารถพบได้ในผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุ แต่กลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดอาการรุนแรง คือ เด็กเล็ก เด็กที่ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เด็กที่คลอดก่อนกำหนด และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง สำหรับการติดเชื้อในกลุ่มเด็กเล็ก เชื้อมีโอกาสลุกลามไปยังระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น หลอดลม เนื้อปอด ทำให้เกิดอาการหลอดลมใหญ่อักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ และปอดอักเสบตามมา มักพบเด็กรับเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วยขณะที่ไปโรงเรียน ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก และยังสามารถแพร่เชื้อต่อให้กับคนในบ้านได้ กรมควบคุมโรคจึงอยากเตือนให้ผู้ปกครองต้องสังเกตอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
อ่านข่าวเพิ่มเติม:วารสารนานาชาติชี้ เดินวันละ 4,000 ก้าว ลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ !
อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถป้องกันได้โดยการล้างมืออย่างถูกวิธีด้วยสบู่และน้ำสะอาดบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนมื้ออาหารและหลังเข้าห้องน้ำ ดูแลสุขอนามัย หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น หากจำเป็นควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ทำความสะอาดบ้านรวมทั้งของเล่นเด็กเป็นประจำ รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ หากพบเด็กมีอาการป่วย ควรแยกออกจากเด็กปกติเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อ และพาไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาต่อไป โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
อ่านข่าวเพิ่มเติม:การบริโภควิตามินซีมากเกินไป อาจส่งผลให้การตรวจพบโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ล่าช้า