[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามรายงานของ “สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์” นางนิยดา เสนีย์มโนมัย โฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ส่งเงินสมทบเดือนละ 432 บาท หากจะขอรับเงินกรณีชราภาพ ผู้ประกันตนจะต้องอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน โดยสิทธิจะเกิดก็ต่อเมื่อเข้าเงื่อนไขดังกล่าวทั้งสองข้อ หมายความว่าต้องอายุครบ 55 ปี และต้องลาออกจากการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 แต่หากอายุครบ 55 ปี ไม่ลาออกจะยังไม่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน โดยสามารถส่งเงินสมทบต่อไปได้โดยไม่จำกัดอายุ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทั้ง 6 กรณีต่อเนื่อง โดยเฉพาะสิทธิประกันสังคมในการรักษาพยาบาลและอัตราเงินบำนาญจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการส่งเงินสมทบด้วย ซึ่งหากส่งเงินสมทบไม่ครบ 15 ปีจะได้รับเป็นเงินบำเหน็จหรือเงินก้อน แต่หากการส่งเงินสมทบครบ 15 ปีแรก จะได้รับบำนาญพื้นฐาน 20% ส่วนที่ส่งเกิน 15 ปี บำนาญจะเพิ่มขึ้นปีละ 1.5% โดยมีฐานคำนวณบำนาญอยู่ที่ 4,800 บาท
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : ในเดือน ก.ค.นี้ รัฐฯ มีการปรับสิทธิและผลประโยชน์สำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ดูที่เดียวจบ
หากผู้ประกันตนมาตรา 39 จะขอรับเงินบำเหน็จบำนาญชราภาพ สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ ภายใน 2 ปี นับแต่วันที่มีสิทธิรับเงินกรณีชราภาพ แต่หากเกิน 2 ปีไปแล้วมายื่นในภายหลัง จะต้องยื่นคำแจ้งเหตุที่ยื่นเกินกำหนด
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : เทศกาลศิลปะเมืองนิวไทเปจัดขึ้นเป็นเวลา 17 วันติดต่อกัน มีทั้งการแสดงดอกไม้ไฟ ตลาดนัด และการแสดงอื่น ๆ เกือบร้อยรายการ
โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า หากผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ขอรับเงินกรณีชราภาพไปแล้ว จะไม่สามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้อีก เมื่อลาออกกฎหมายจะให้ความคุ้มครองต่อไปอีกเพียง 6 เดือนนับจากวันที่ลาออกจากมาตรา 39 สำหรับผู้ประกันตนที่จะขอรับเงินบำนาญชราภาพรายเดือนไปตลอดชีวิต แนะนำให้แจ้งบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนเพื่อขอรับเงินรายเดือน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนไม่เสียค่าธรรมเนียมการโอนเงินในแต่ละเดือน หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันสังคม โทร.1506 กด 1 ตลอด 24 ชั่วโมง