นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า "โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง" หรือ "เอแอลเอส (ALS)" เป็นโรคทางระบบประสาทโดยตรง เกิดขึ้นจากเซลล์ระบบประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อเสื่อม แก่และตายก่อนวัยอันควร มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แขนขาลีบ มีการกระตุกเต้นของกล้ามเนื้อ กว่าร้อยละ 70 จะเริ่มเป็นที่บริเวณแขนขาข้างใดข้างหนึ่ง ก่อนจะลุกลามไปสู่กล้ามเนื้อส่วนอื่น ส่งผลทำให้พูดไม่ได้ หรือหายใจเองไม่ได้ จึงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและทานอาหารผ่านสายยาง
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยที่ผ่านมาพบผู้ป่วย 4 - 6 คนต่อประชากร 100,000 คน และจะมีโอกาสพบผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 1-3 คน ต่อปี โดยโรคนี้มักจะเกิดในกลุ่มผู้ที่มีอายุระหว่าง 40 – 60 ปี พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตหลังเกิดอาการเพียง 3 - 4 ปี มีเพียงแค่ร้อยละ 10 เท่านั้นที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานสูงสุดถึง 10 ปี ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโรคนี้ให้หายขาด การรักษาทำได้เพียงบรรเทาอาการและประคับประคองเพื่อให้ผู้ป่วยอยู่ได้นานที่สุด
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง สามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ แต่ต้องกินยาตามแพทย์สั่งตลอดเวลา นอกจากนี้ คนในครอบครัวและญาติ ต้องให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างเพื่อให้ผู้ป่วยได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความสุข พร้อมแนะนำดูแลสุขภาพให้ดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากสงสัยว่าจะเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยป้องกันไม่ให้โรคลุกลามต่อไป
ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์