การบริโภควิตามินซีมากเกินไป อาจส่งผลให้การตรวจพบโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ล่าช้า

ปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจกับการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากจนเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ โรงพยาบาลไทเปซิตี้  (台北市立聯合醫院) เผยว่า พบผู้สูงอายุวัย 75 ปี ที่บริโภควิตามินซีแบบเม็ดฟู่แทนการดื่มน้ำต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยแพทย์สันนิษฐานว่า“วิตามินซี”อาจส่งผลให้การตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระคลาดเคลื่อน ทำให้การตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ล่าช้าออกไป

แพทย์ระบุว่า ผู้สูงอายุดังกล่าวมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี แต่มีอาการอุจจาระร่วงเล็กน้อย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เข้ารับการตรวจและติดตามอาการของโรคลำไส้แปรปรวนมาโดยตลอด ผลการตรวจเลือดแฝงในอุจจาระในทุกๆ ครั้งต่างก็เป็นปกติ แต่อาการอุจจาระร่วงยังไม่ดีขึ้น แพทย์จึงแนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ แต่ผู้ป่วยกลัวความเจ็บปวดจึงได้ปฏิเสธ

การบริโภควิตามินซีเกินขนาด อาจส่งผลให้การตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระคลาดเคลื่อน ทำให้ตรวจพบโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ล่าช้า ภาพ／จากคลังภาพ Pixabay

อ่านข่าวเพิ่มเติม： วิเคราะห์นิ่วกรดยูริกโดยไม่ต้องผ่าตัดด้วย AI ช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลา

ในเวลาต่อมา ผู้ป่วยมีอาการท้องผูกและปวดท้องอย่างรุนแรงจนมาพบแพทย์อีกครั้ง หลังจากตรวจด้วยพยาธิวิทยาและการส่องกล้องแล้ว  ยืนยันว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แพทย์กล่าวว่า ในกรณีทั่วไปการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระสามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แต่เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้บริโภควิตามินซีแบบเม็ดฟู่แทนการดื่มน้ำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้มีสารต้านอนุมูลอิสระมากจนเกินไป ส่งผลให้การตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระคลาดเคลื่อน ทำให้การตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ล่าช้าออกไป (เป็นเพียงการสันนิษฐานของแพทย์เท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดในเรื่องนี้)

จากกรณีข้างต้น จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนบริโภควิตามินซีรวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดอื่น ๆ ในปริมาณที่เหมาะสม หากพบอาการของโรคระบบทางเดินอาหาร หรือการเปลี่ยนแปลงของระบบการขับถ่าย ฯลฯ นอกจากการตรวจโดยทั่วไปแล้ว ทางที่ดีควรเข้ารับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ การตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ มักส่งผลดีต่อการรักษา