เพื่อเป็นการตอบสนองต่อการเปิดให้มีการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐอเมริกาที่มีสารแรคโตพามีน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาไต้หวัน (อ.ย.ไต้หวัน) มุ่งมั่นที่จะเพิ่มความเข้มงวดให้กับการติดฉลากระบุแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์เนื้อสุกร โดยออกประกาศกฎระเบียบฉบับใหม่เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ว่า ในอนาคตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหมูจะต้องระบุแหล่งที่มาด้วย
รัฐบาลไต้หวันจะเปิดให้มีการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐอเมริกาที่มีสารแรคโตพามีน (สารเร่งเนื้อแดง) มายังไต้หวันตั้งแต่วันปีใหม่ปีหน้า (2021) ตามร่างฉลากที่ประกาศโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการไต้หวันระบุว่า แม้ว่าอาหารที่มีเนื้อหมูจะต้องระบุแหล่งกำเนิด แต่น้ำมันหมูที่เติมลงไปในอาหารสามารถได้รับการยกเว้นจากการติดฉลาก เว้นแต่ว่าอาหารนั้นจะเป็นน้ำมันหมูจึงจำเป็นต้องมีฉลาก ซึ่งทำให้เกิดการโต้เถียงกัน
อ.ย.ไต้หวันจึงได้ประกาศแก้ไข "ข้อบังคับว่าด้วยการติดฉลากอาหาร" โดยประกาศ "ระเบียบว่าด้วยที่มาของวัตถุดิบเนื้อสุกรและส่วนที่กินได้ของอาหารบรรจุหีบห่อ" "ระเบียบว่าด้วยแหล่งกำเนิดของวัตถุดิบเนื้อสุกรและส่วนที่กินได้ของอาหารที่จัดส่งให้กับสถานประกอบการอาหารโดยตรง" และได้ยกเลิกการยกเว้นข้อกำหนดการติดฉลากน้ำมันหมูดังกล่าวด้วย
ตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องหากมีการใช้เนื้อสุกรและชิ้นส่วนที่กินได้ของสุกรในอาหาร อาหารบรรจุหีบห่อ หรือส่งตรงไปยังสถานประกอบการอาหาร ควรทำเครื่องหมายประเทศต้นทางของเนื้อสุกร (นั่นคือพื้นที่ฆ่าสัตว์) เป็นภาษาจีนบนภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์ด้านนอก ซึ่งกฎระเบียบใหม่จะถูกบังคับใช้ตั้งแต่วันปีใหม่ปี 2021 เป็นต้นไป
