img
:::

ไต้หวันจะได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศจากต่างประเทศวันนี้

ไต้หวันจะได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศจากต่างประเทศวันนี้

เมื่อคืนวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา สำนักบริหารการป้องกันสิ่งแวดล้อม สภาบริหารไต้หวันได้ออกแถลงการณ์ว่า คาดการณ์ว่าวันนี้ (3 ต.ค.) ไต้หวันจะได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศจากต่างประเทศ สำหรับภาคเหนือ หยุนหลิ๋น เจียอี้ ไถหนาน เกาสง ผิงตง จะมีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดง (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพและสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน

สำนักบริหารการป้องกันสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เมืองกว่างโจว์และเซินเจิ้นของจีนมีค่า PM2.5  และ Ozone (O3) อยู่ที่ประมาณ 70μg/m3 และ 150ppb สำหรับสภาพอากาศในวันนี้ (3 ต.ค.) ทั่วไต้หวันมีเมฆเป็นส่วนมากและมีแดดออก มีลมตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้ามา อาจทำให้ไต้หวันได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากมลพิษทางอากาศจากต่างประเทศ นอกจากนี้สภาพอากาศในไต้หวันมีลมที่อ่อนจึงทำให้เกิดการสะสมของมลพิษได้ง่าย ในช่วงบ่าย ด้านตะวันตกของไต้หวันจะเกิดปฏิกิริยาโฟโตเคมีคัล ซึ่งเป็นปฏิกิริยาเคมีของสารอันเนื่องมาจากแสงสว่าง โดยมีการดูดซับพลังงานแสง มักจะเกิดขึ้นในเวลาที่มีบรรยากาศสกปรกส่งผลให้ โอโซน( Ozone, O3) ในอากาศเข้มข้นมากซึ่งจะเป็นอันตรายต่อทางเดินหายใจ

สำหรับอี๋หลาน ฮวาเหลี๋ยยน และไถจง คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปกติ ส่วนซินจู๋ เหมี๋ยวลี่ และบริเวณภาคกลาง เผิงหู และจินเหมินมาจู๋  คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) สำหรับพื้นที่ที่มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดง (ภาคเหนือ หยุนหลิ๋น เจียอี้ ไถหนาน เกาสง ผิงตง) จะอยู่ในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น

คุณภาพอากาศได้รับผลกระทบอย่างมากจากสภาวะอุตุนิยมวิทยา ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศอยู่ตลอดเวลา โดยคุณสามารถดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น Environment Info Push (環境即時通) ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนคุณเมื่อคุณภาพอากาศย่ำแย่ลง หากคุณเป็นผู้ที่อ่อนไหวต่อสภาพอากาศ ผู้สูงอายุ เด็ก หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ขอแนะนำให้ลดการทำกิจกรรมนอกบ้าน หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านควรสวมหน้ากากอนามัย

แอพลิเคชั่น Environment Info Push (環境即時通) (ภาพจากสำนักบริหารการป้องกันสิ่งแวดล้อม)

ระดับคุณภาพอากาศ (ภาพจากสำนักบริหารการป้องกันสิ่งแวดล้อม)

ไต้หวันจะได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศจากต่างประเทศวันนี้ (ภาพจาก pixabay)

มาเป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็น

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading