img
:::

สำนักงานบริหารการส่งเสริมสุขภาพไต้หวันเผย การไม่ดื่มแอลกอฮอล์จะสามารถต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ได้ดีขึ้น

สำนักงานบริหารการส่งเสริมสุขภาพไต้หวันเผย การไม่ดื่มแอลกอฮอล์จะสามารถต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ได้ดีขึ้น

แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโครวิด-19 ทำให้การรวมตัวรับประทานอาหารกับเพื่อนๆ ลดลง แต่ที่ผ่านมามีการดื่มแอลกอฮอล์กับเพื่อนๆ ในรูปแบบใหม่ที่ผ่านการไลฟ์สดหรือดื่มกับเพื่อนๆ แบบออนไลน์ ซึ่งทำให้ดื่มในปริมาณที่มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว สำนักงานบริหารการส่งเสริมสุขภาพไต้หวันเตือนว่าการดื่มแอลกอฮอล์จะทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและเป็นอันตรายต่อการต่อสู้กับโรคโควิด-19 จึงควรละเว้นการดื่มแอลกอฮอล์

การไม่ดื่มแอลกอฮอล์สามารถต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ได้

จากคู่มือ "แอลกอฮอล์และโรคโควิด-19" ขององค์การอนามัยโลก สำนักงานยุโรประบุว่า การดื่มแอลกอฮอล์สามารถก่อให้เกิดโรคต่างๆได้มากกว่า 200 โรค เช่น แผลในกระเพาะอาหาร ตับแข็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจและหลอดเลือด และภาวะสมองเสื่อม รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหลอดอาหารและตับ นอกจากนี้ยังจะทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น อาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์อย่างสิ้นเชิงในช่วงการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเพื่อลดความเสียหายที่เกิดจากแอลกอฮอล์ต่อระบบภูมิคุ้มกันและรักษาภูมิคุ้มกันที่ดี

รับประทานอาหารนอกบ้านปฏิเสธที่จะชักชวนให้ดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเคารพสิทธิด้านสุขภาพส่วนบุคคล

มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไต้หวันมีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตทางสังคมได้อย่างปกติภายใต้การรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยและดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค นายหวัง อิงเหว๋ย (王英偉) ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารการส่งเสริมสุขภาพไต้หวันกล่าวว่า วัฒนธรรมการรับประทานอาหารค่ำและความบันเทิงของไต้หวันมักจะมีการดื่มสำหรับเจ้าภาพและแขก เห็นได้ชัดว่าบางคนไม่สามารถดื่มได้ แต่เนื่องจากกังวลว่าจะทำให้เจ้านายหรือลูกค้าของตนไม่พอใจจึงต้องกัดฟันดื่มอยู่หลายแก้ว ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะก่อให้เกิดภาระทางจิตใจและร่างกาย รวมทั้งแรงกดดันต่อผู้คนที่รับประทานอาหารร่วมกัน นายหวัง อิงเหว๋ย กล่าวอีกว่า การดื่มในปริมาณที่เหมาะสมเป็นแนวคิดเก่า เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายต่างๆที่เกิดจากการดื่ม (รวมถึงโรคหรือการเมาแล้วขับ) จึงควรเคารพสิทธิด้านสุขภาพส่วนบุคคล ต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพของพนักงาน ลูกค้า ญาติและเพื่อนๆ มาเป็นอันดับแรก รับประทานอาหารร่วมกันไม่ชวนหรือบังคับดื่มแอลกอฮอล์ แต่เปลี่ยนเป็นการดื่มชาแทนแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้ทั้งเจ้าภาพและแขกจะได้รับความสนุกสนานปลอดภัยและมีสุขภาพดี

การดื่มในปริมาณที่พอเหมาะเป็นเรื่องในอดีต ไม่ว่าคุณจะดื่มมากแค่ไหนก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณ การศึกษาจำนวนมากยืนยันว่าไม่มีขีดจำกัดที่ปลอดภัยสำหรับการดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ประชากรไต้หวันเกือบครึ่งหนึ่งยังขาดเอนไซม์เผาผลาญแอลกอฮอล์ "Acetaldehyde Dehydrogenase (ALDH2)" ซึ่งการดื่มทำให้หน้าแดงได้ง่าย และเพิ่มโอกาสของการเกิดมะเร็งและโรคสมองเสื่อม จึงไม่แนะนำให้ดื่มแอลกอฮอลล์

หากคุณจำเป็นต้องดื่ม แนะนำให้ทำตามคำแนะนำของ “คู่มือดัชนีอาหารแห่งชาติ” ซึ่งผู้ชายไม่ควรดื่มเบียร์เกิน 2 กระป๋อง 330 มล. (แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ประมาณ 20 กรัม) ต่อวัน สำหรับผู้หญิงไม่ควรดื่มเบียร์เกิน 1 กระป๋อง (แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ประมาณ 10 กรัม) ต่อวัน หากคุณวางแผนที่จะตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดอย่าดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพของทารกแรกเกิด

การดำเนินชีวิตในรูปแบบใหม่ที่ต้องดำเนินการป้องการการแพร่ระบาดของโรคไปด้วย ต้องกล้าที่จะปฎิเสธการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพของตนเอง (ภาพจาก สำนักงานบริหารการส่งเสริมสุขภาพไต้หวัน)

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading