[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามรายงานของ “สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์” นางสาวเบียทริส โฮ ผู้อำนวยการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งมาเป็นอย่างดีรวมถึงด้านการค้าแบบไร้พรหมแดนรวมถึงนโยบายสนับสนุนด้านต่างๆของภาครัฐ ซึ่งมองว่าภาคการผลิตของไทยมีบทบาทสำคัญโดยในปีที่ผ่านมามีสัดส่วนประมาณร้อยละ 27 ของGDP อีกทั้งยังมองว่าการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยวและการสานต่อโครงการก่อสร้างที่ล่าช้าในออกไปในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ประกอบกับประเทศไทยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์สันดาบภายในรายใหญ่เป็นอันดับ 5 ของเอเชียและใหญ่เป็นอันดับ 11 ของโลก
อ่านข่าวเพิ่มเติม : กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการเพิ่มงบ “โครงการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตสำหรับเยาวชน”
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการลงทุนตั้งฐานผลิต ยานยนต์ไฟฟ้าในไทยเพิ่มขึ้นภายใต้เป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางด้าน EV ของอาเซียนภายในปี 2568 ส่งผลให้มีความต้องการใช้โลหะเหล็กและห่วงโซ่อุตสาหกรรม เช่น สายไฟ เส้นลวด สายเคเบิล ท่อและท่อร้อยสายเพิ่มขึ้นจากปัจจัยสนับสนุนด้านต่างๆ จึงเล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทยใช้เป็นพื้นที่จัดงานมหกรรมด้านอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานขึ้น ซึ่งจะมีการรวบรวมตัวผู้ผลิตซัพพลายเออร์ ผู้ให้บริการโซลูชันที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมร่วมจัดงานมากกว่า 400 ราย จาก 30 ประเทศทั่วโลก เกิดการจับคู่ทางธุรกิจ ตอบโจทย์ความต้องการครอบคลุมทั้งธุรกิจก่อสร้าง ยานยนต์ พลังงาน ก๊าซ ไปจนถึงโรงงานผลิตขึ้นรูปโลหะและเหล็กกล้า ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจในอนาคต ที่ไบเทคบางนา คาดว่าตลอดการจัดงานจะมีผู้ร่วมงานประมาณ 7,000-9,000 คน
อ่านข่าวเพิ่มเติม : SMS ให้ชำระค่าภาษีรถยนต์ กลโกงมิจฉาชีพ ! เตือนลิงค์เว็บไซต์ของรัฐต้องลงท้ายด้วย gov.tw เท่านั้น