นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. กล่าวว่า ในปี 2563 เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 อย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดกิจกรรมนี้ด้วยการจัดทำคูปองส่วนลดพิเศษ มูลค่าใบละ 300 บาท จำนวน 16,666 ใบ รวมมูลค่าทั้งหมด 5 ล้านบาท โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ทาง Facebook : กฟผ. และ Line : @EGAT ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม เป็นต้นไป จนกว่าสิทธิ์จะหมด และคูปองส่วนลดจะถูกจัดส่งทางไปรษณีย์ โดยใช้สิทธิ์ซื้อสินค้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 29 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งคาดจะช่วยให้ประเทศประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ถึงประมาณ 1.7 ล้านหน่วยต่อปี หรือ 6.8 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประมาณ 867 ตันต่อปี
สำหรับที่ผ่านมา กฟผ.ได้ดำเนินงานการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า เพื่อให้การใช้ไฟฟ้าของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 จำนวน 21 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งตั้งแต่เริ่มโครงการฯ จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 25 ปี ได้จ่ายฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ไปแล้ว 394 ล้านฉลาก สามารถช่วยให้ประเทศประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 30,000 ล้านหน่วย หรือกว่าแสนล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ 17 ล้านตัน
สำหรับบริษัทผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า 14 ราย ที่เข้าร่วมโครงการ ครั้งนี้ ได้แก่ 1. บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด (Baan&Beyond และไทวัสดุ) 2. บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (Big c) 3. บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จํากัด (Central) 4. บริษัท ดูโฮม จํากัด (Dohome) 5. บริษัท โกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (Global house) 6. บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จํากัด (มหาชน) (HomePro) 7. บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จํากัด (มหาชน) (Indexlivingmall) 8. บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) (makro) 9. บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ จำกัด (MEGAHOME) 10. บริษัท เพาเวอร์บาย จํากัด (Powerbuy) 11. บริษัท โรบินสัน จํากัด (มหาชน) (Robinson) 12. บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จํากัด (The mall และ Powermall) 13. บริษัท สยาม ทาคาชิมาย่า (ประเทศไทย) จำกัด (Siam Takashimaya) และ 14. บริษัท กรุงเทพ-โตคิว สรรพสินค้า จำกัด (TOKYU)
ข้อมูลข่าวจาก สำนักข่าวไทย