หลินซู่เจิน (林素貞) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวไทยเปิดร้านขายของทานเล่นสไตล์ไทยในเมืองเจียอี้ ทำให้พี่น้องแรงงานต่างชาติและผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่เข้ามาทำงานในไต้หวันมีที่ให้ฝากท้อง ทั้งยังกลายเป็นสถานที่ที่ให้คนในท้องถิ่นได้มีโอกาสลิ้มลองอาหารไทย และเมื่อ 3 ปีก่อนสามีของเธอป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ทำให้เธอต้องแบกรับหน้าที่ของทางบ้านเพียงลำพัง จากความอุสาหะพยายามของเธอ สถานีบริการเมืองเจียอี้ กองพลกิจการพื้นที่เขตภาคใต้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองร่วมมือกับศูนย์บริการครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ภายใต้การดูแลของสำนักงานสังคมเจียอี้ ได้เดินทางลงพื้นที่ไปเยี่ยมเยียนและให้ความช่วยเหลือ
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : งานมหกรรมหนังสือนานาชาติไทเป 2023 เริ่มแล้ววันนี้ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ชาวต่างชาติเข้าชมฟรี
หลินซู่เจิน (林素貞) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวไทยเปิดร้านขายของทานเล่นสไตล์ไทยในเมืองเจียอี้ ภาพ/จาก สถานีบริการเมืองเจียอี้
หลินซู่เจิน ปัจจุบันอายุ 66 ปี เดินทางมาอยู่ที่ไต้หวันนานกว่า 20 ปี หลังจากที่เพื่อนร่วมงานพูดกับเธออยู่ประโยคหนึ่งว่า “ข้าวกล่องของเธอดูน่าอร่อยมาก ฉันขอชิมหน่อยได้ไหม” ทำให้เธอเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหาร แต่เนื่องจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ทำให้ธุรกิจร้านอาหารของเธอดำเนินไปอย่างยากลำบาก นอกจากนี้ เธอยังต้องดูแลสามีที่ป่วยติดเตียงไปด้วย เคราะห์ซ้ำกรรมซัดตอนนี้ข้อเข่าของเธอก็เสื่อม มีอาการบาดเจ็บ แต่เพื่อต้องหาเลี้ยงครอบครัว เธอต้องอดทนเดินหน้าสู้ต่อไป
หลินซู่เจิน กล่าวว่า เธอรู้สึกขอบคุณทุกคนที่คอยช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด เธอรู้สึกถึงความเป็นมิตรของสังคมไต้หวันที่มีต่อชาวต่างชาติ และเธอยังรู้สึกขอบคุณพนักงานของสถานีบริการเมืองเจียอี้ ที่มาเยี่ยมเธอที่บ้านและคอยดูแลเป็นพิเศษ
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : ทีมปฏิบัติการพิเศษ สตม. บุกทลายบ่อนพนันใต้ดิน “ร้านอาหารเวียดนาม”
หน่วยรถบริการเคลื่อนที่ เดินทางเข้าไปในพื้นที่ชนบท ติดตามดูแลผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ต้องการความช่วยเหลือ ภาพ/จาก สถานีบริการเมืองเจียอี้
หลินปิ่งหวง (林炳煌) ผู้อำนวยการสถานีบริการเจียอี้ กล่าวว่า หลินซู่เจินเพื่อต้องการดูแลคนในครอบครัว เธอต้องดูแลร้านและดูแลครอบครัวเพียงลำพัง การไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากของเธอนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังคงให้การสนับสนุนให้คำปรึกษาด้านการปรับตัวในการใช้ชีวิตสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ โดยได้จัดตั้งหน่วยรถบริการเคลื่อนที่ เดินทางเข้าไปในพื้นที่ชนบท ติดตามดูแลผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ต้องการความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับศูนย์บริการครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ของกรมกิจการสังคม เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่กำลังประสบปัญหาได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง