กรมควบคุมโรคไต้หวันกล่าวว่า แม้ว่าการแพร่ระบาดของเอนเทอโรไวรัสในประเทศจะยังอยู่ในระดับต่ำ แต่สัปดาห์นี้ตรงกับการเปิดเรียนทุกระดับชั้น เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเอนเทอโรไวรัสผ่านการมีปฎิสัมพันธ์ของเด็กนักเรียน หรือเด็กนักเรียนนำเชื้อกลับมาติดเด็กเล็กที่บ้าน จึงขอเตือนประชาชนให้เสริมสร้างแนวคิดสุขอนามัยที่ดีแก่เด็กๆ เช่น การล้างมือที่ถูกต้อง รวมทั้งให้ความสำคัญกับการระบายอากาศและความสะอาดของบ้านและสถานที่เรียน หากเด็กเล็กได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส กรุณาอย่าไปโรงเรียนเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายเชื้อที่เกิดจากการสัมผัสกับเด็กเล็กคนอื่น ๆ
จากข้อมูลการติดตามสถานณการ์ของโรคของกรมควบคุมโรคไต้หวันแสดงให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของเอนเทอโรไวรัสในประเทศล่าสุดอยู่ในระดับต่ำ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (23-29 ส.ค.) มีผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยฉุกเฉินเอนเทอโรไวรัสรวม 1,402 คนครั้งเช่นเดียวกับสัปดาห์ก่อนหน้า (1,385 คนครั้ง) เอนเทอโรไวรัสส่วนใหญ่ที่ตรวจพบเป็นชนิด coxsackievirus group A แต่ก็มีการตรวจพบชนิด เอนเทอโรไวรัส 71 ด้วย ในปีนี้ (2020) มีผู้ป่วยเอนเทอโรไวรัสที่ป่วยรุนแรง 5 ราย โดยทั้งหมดติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ส่วนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2017-2019) มีจำนวน 9 ราย 29 รายและ 41 รายตามลำดับ สำหรับการแพร่ระบาดของเอนเทอโรไวรัสในประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตามแม้ว่าจีนแผ่นดินใหญ่จะยังอยู่ในช่วงปลอดการแพร่ระบาด แต่จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับรายงานก็เพิ่มขึ้นเป็นเวลา 8 สัปดาห์ติดต่อกัน ส่วนจำนวนผู้ป่วยในประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นเช่นกันในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา
กรมควบคุมโรคระบุว่า เอนเทอโรไวรัสสามารถติดต่อกันได้ง่าย นอกจากเด็กเล็ก วัยรุ่นและผู้ใหญ่ก็มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามอาการส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและยากที่จะแยกแยะออกจากการเป็นหวัดปกติ ซึ่งวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือการล้างมือบ่อยๆ อย่างถูกวิธี จึงขอเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองและบุคลากรในสถานศึกษาสอนเด็กๆ ว่า เมื่อเข้าออกในสถานที่ที่มีผู้คนเป็นจำนวนมากหรือทำกิจกรรมที่มีปฎิสัมพันธ์กันบ่อยครั้ง เช่น ในชั้นเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือสนามเด็กเล่น ก่อนกลับบ้านหรือรับประทานอาหารต้องล้างมือให้ถูกต้องตาม 5 ขั้นตอน “ให้มือเปียกน้ำ ขัดถูมือให้ทั่ว ล้างมือ ล้างก๊อกน้ำ เช็ดมือให้แห้ง”
นอกจากนี้ขอเตือนประชาชนว่าหากเด็กในบ้านติดเชื้อเอนเทอโรไวรัสก็ควรให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงของอาการ เมื่อพบว่ามีอาการง่วงนอน หมดสติ ไม่มีแรง มือและเท้าอ่อนแรง กล้ามเนื้อกระตุก (โดยไม่มีสาเหตุหรือกล้ามเนื้อทั้งตัวเกร็งอย่างกะทันหัน) อาเจียนอย่างต่อเนื่อง และมีอาการรุนแรงเช่นหายใจถี่หรือหัวใจเต้นเร็ว ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลใหญ่โดยเร็วที่สุดเพื่อรับการรักษาทันที สำหรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์กรมควบคุมโรคหรือโทรสอบถามที่สายด่วนป้องกันการแพร่ระบาดของโรค 1922 (หรือ 0800-001922)
