เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา นางไช่ อิงเหวิน (蔡英文) ประธานาธิบดีไต้หวันได้เดินทางไปร่วมการเปิดการประชุมพัฒนานโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ และอธิบายถึงกลยุทธ์ "มุ่งใต้ การพัฒนาอันยิ่งใหญ่" ของรัฐบาล ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "การสร้างความเจริญรุ่งเรืองด้วยการท่องเที่ยว" ซึ่งเธอมั่นใจว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าไต้หวันจะกลายเป็น "จุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับการท่องเที่ยวในเอเชีย" เป็นหัวรถจักรที่นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
นางไช่ อิงเหวินกล่าวว่า ด้วยความพยายามในแวดวงต่างๆ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไต้หวันในปีนี้มีจำนวนทะลุ 11.11 ล้านคน ทำสถิติใหม่ เราได้ใช้มาตรการผ่อนคลายวีซ่าจำนวนมาก จึงทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น เกาหลี และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากการจัดอันดับดัชนีการท่องเที่ยวมุสลิมทั่วโลก ไต้หวันถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่สามในกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่มุสลิมในปีนี้ แสดงให้เห็นว่าไต้หวันจึงตั้งใจทำอย่างเต็มที่ โดยพิจารณาความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จนได้รับการยอมรับในระดับสากล
นางไช่ อิงเหวิน กล่าวว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้เธอยังเป็นผู้ริเริ่มกิจกรรมนอนค้างทำเนียบประธานาธิบดี 1 คืน โดยเชิญผู้ทรงอิทธิพลและคนดังบนโลกอินเทอร์เน็ตจากทั่วโลกมาสัมผัสกับไต้หวันเป็นการส่วนตัว ทำความรู้จักกับไต้หวัน และแนะนำไต้หวันให้โลกรับรู้ โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้มีคนดังบนโลกอินเทอร์เน็ตชาวอิสราเอลซึ่งมีผู้คนติดตามเขาเกินกว่า 14 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งเธอเชื่อว่าจะสามารถสร้างโอกาสในการเปิดเผยการท่องเที่ยวไต้หวันไปสู่ต่างประเทศมากขึ้น
นางไช่ อิงเหวินอธิบายเพิ่มเติมว่า กรมการท่องเที่ยวของกระทรวงคมนาคมกำลังจะได้รับการยกระดับเป็นสำนักงานการท่องเที่ยว ปัจจุบันกรมการท่องเที่ยวได้วางแผนวิสัยทัศน์นโยบายการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวไต้หวันปี 2030 หลังจากการประชุมหลายครั้ง ต้องขอขอบคุณการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของผู้แทนจากภาคอุตสาหกรรม รัฐบาล และสถาบันการศึกษา ทำให้ตอนนี้มีแนวทางเบื้องต้นแล้ว
นางไช่ อิงเหวินเน้นย้ำว่า เธอมั่นใจว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าไต้หวันจะกลายเป็น "จุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับการท่องเที่ยวในเอเชีย" และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะสร้างมูลค่ามากกว่าล้านล้านเหรียญไต้หวัน เราจะขยายทรัพยากรการลงทุนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่สมดุลของภูมิภาคผ่านการท่องเที่ยว เมื่อวันก่อนเธอได้เสนอกลยุทธ์ "มุ่งใต้ การพัฒนาอันยิ่งใหญ่" โดยหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "การสร้างความเจริญรุ่งเรืองด้วยการท่องเที่ยว" และเป้าหมายของเราคือการทำให้การท่องเที่ยวเป็นหัวรถจักรที่นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
