0920.jpg)
[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามรายงานของ “สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์” ระบุว่า ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 พบผู้สูงอายุไทยทั้งสิ้น 12.8 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 19.4 จากประชากรทั้งหมด และมีผู้ทำงานในส่วนงานราชการและรัฐวิสาหกิจที่กำลังจะเกษียณอายุวันที่ 30 กันยายน 2566 นี้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้เกษียณถือว่ากำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย จะมีเวลาว่างมากขึ้น อาจทำให้เกิดความเหงา อ้างว้าง หวาดกลัว โดดเดี่ยว รู้สึกไร้ค่า ซึมเศร้า ประกอบกับสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงทำให้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากยิ่งขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม:วารสารนานาชาติชี้ เดินวันละ 4,000 ก้าว ลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ !
จากข้อมูลใน เฟซบุ๊กสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ระบุว่า กรมอนามัย แนะนำให้ผู้ที่จะเกษียณอายุและผู้สูงอายุ สร้างแรงบันดาลใจในการจัดการสุขภาพตนเองตามแนวทางเวชศาสตร์วิถีชีวิต( Lifestyle Medicine) ภายใต้ 6 องค์ประกอบ ดังนี้ 1.เน้นการทานอาหารถูกหลัก เน้นการทานข้าวกล้องและปลาเป็นหลัก ลดหวาน มัน เค็ม ตลอดจนการดื่มน้ำและนมให้เพียงพอกับความต้องกายของร่างกาย 2.การทำกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม ในความเหนื่อยระดับปานกลาง เฉลี่ยอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน ควบคู่ไปกับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ อย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์
3.การนอนหลับอย่างมีคุณภาพและเพียงพอ 4.ควบคุมความเครียด 5.หลีกเลี่ยงสารอันตราย อาทิ เหล้า และบุหรี่ 6.การมีปฏิสัมพันธ์กับสังคม ต่างเป็นแนวทางที่จะช่วยให้ผู้ที่จะเกษียณอายุและผู้สูงอายุมีสุขภาพกายใจที่ดีและใช้ชีวิตในวัยเกษียณได้อย่างมีความสุข นำไปสู่การสร้างสังคมสูงวัยที่มีคุณภาพของประเทศไทยต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม:การบริโภควิตามินซีมากเกินไป อาจส่งผลให้การตรวจพบโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ล่าช้า
