ตามกฎระเบียบของชาวต่างชาติที่แต่งงานกับชาวไต้หวันและจดทะเบียนราษฎร์ในไต้หวัน สามารถพำนักอยู่ในไต้หวันและไม่ต้องขอใบอนุญาติการทำงาน อย่างไรก็ตาม แรงงานข้ามชาติที่หลบหนีมักปลอมแปลงสถานะของตนเองโดยใช้สถานะการเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ หรือแม้กระทั้งใชบัตรประชาชนผู้อื่นในการสมัครงาน สำนักงานแรงงานนครไถหนานได้ออกมาเรียกร้องประชาชนว่า หากต้องการจ้างงานชาวต่างชาติ จะต้องทำการพิสูจน์ใบถิ่นที่อยู่และสมุดทะเบียนราษฎร์ให้ละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำที่ผิดกฎหมาย
เสี่ยว เฉินได้อาศัยฝีมือการทำอาหารของตนเองจนสามารถเปิดร้านขายอาหารเล็กๆ เป็นของตนเอง โดยทุกช่วงของเวลารับประทานอาหาร ร้านของเขาก็จะเต็มไปด้วยลูกค้ามากมาย มีอยู่วันหนึ่งมีชาวต่างชาตินามว่า“Tina”มาเสนอตัวเพื่อช่วยงานในร้านและอ้างว่าสามีของเธอเป็นคนไต้หวัน ซึ่ง Tina ได้หยิบรูปถ่ายของเธอพร้อมสามีและลูกชายเพื่อเป็นการพิสูจน์ ทำให้เสี่ยว เฉินไม่รู้สึกสงสัยใดๆ เลย จึงได้รับ Tina เข้ามาทำงานทันที
เสี่ยว เฉินไม่คาดคิดว่าในดังกล่าว Tina ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม เนื่องจากเธอเป็นแรงงานที่หลบหนี ไม่ใช่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แต่อย่างใด เสี่ยว เฉินรู้สึกเสียใจเนื่องจากไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นการทำงานวันแรก และเสี่ยวเฉินยังไม่ได้จ่ายค่าจ้างให้ Tina จึงยังไม่ใช่การจ้างงานผิดกฎหมาย
สำนักงานแรงงานนครไถหนานกล่าวว่า ตราบใดที่ชาวต่างชาติไม่มีใบอนุญาตการทำงาน และถ้ามมีการจ้างงานเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายบริการการจ้างงาน เสี่ยว เฉินก็จะถูกปรับเป็นเงินระหว่าง 150,000 ถึง 750,000 เหรียญไต้หวัน
สำนักงานแรงงานนครไถหนานกล่าวอีกว่า แรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายหลายคนมักจะกล่าวอ้างว่าตนเองมีสถานะเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ เพื่อสมัครเข้าทำงาน บางรายถึงกับใช้บัตรประชาชนผู้อื่นในการสมัครงาน ดังนั้น ก่อนที่จะจ้างงานผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ นายจ้างต้องขอให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่นำใบถิ่นที่อยู่ หรือบัตรประชาชน และทะเบียนราษฎร์มาตรวจสอบอย่างละเอียด อย่าเกรงใจหรือกลัวยุ่งยาก มิเช่นนั้นท่านอาจจ้างแรงงานผิดกฎหมายได้