นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ธนาคารโลกได้เผยแพร่การจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจประจำปี 2020 (Doing Business 2020) ของประเทศต่าง ๆ รวม 190 ประเทศ โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 21 ซึ่งดีขึ้น 6 อันดับ จากเดิมที่อยู่ในอันดับที่ 27 ในปีที่แล้ว ประเทศไทยได้รับคะแนน 80.10 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1.65 คะแนน จัดเป็นอันดับที่ดีที่สุดของไทยในรอบ 6 ปี และมีคะแนนขึ้นมาใกล้เคียงกับประเทศสิงคโปร์ ซึ่งอยู่อันดับที่ 2 (86.20 คะแนน) และมาเลเซีย ซึ่งอยู่อันดับที่ 12 (81.50 คะแนน)
นายอุตตม กล่าวว่า การที่ประเทศไทยมีอันดับดีขึ้นครั้งนี้เป็นผลจากความพยายามของภาครัฐในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความพยายามลดขั้นตอนการขออนุมัติ หรือการนำระบบดิจิทัลเข้ามาให้บริการภาครัฐ รวมถึงการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับบริบททางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ดีขึ้น รวมถึงการคุ้มครองผลประโยชน์ของนักลงทุน รายงานฉบับนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของประเทศไทยในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการประกอบธุรกิจรอบปีที่ผ่านมา ด้านที่ไทยได้รับอันดับดีขึ้นและคะแนนสูงขึ้นมีอยู่ 2 ด้าน ได้แก่ ด้านการขออนุญาตก่อสร้าง ประเทศไทยมีอันดับดีขึ้นจากอันดับที่ 67 (71.86 คะแนน) ในปีที่แล้ว เป็นอันดับที่ 34 (77.30 คะแนน) ในปีนี้ เป็นผลมาจากการดำเนินการลดขั้นตอนในการขออนุญาตก่อสร้างลงจาก 19 ขั้นตอน เหลือ 14 ขั้นตอน และลดระยะเวลาดำเนินการลงจาก 118 วัน เหลือ 113 วัน และด้านการคุ้มครองผู้ลงทุนเสียงข้างน้อย โดยประเทศไทยมีอันดับที่ดีขึ้นจากอันดับที่ 15 (75.00 คะแนน) ในปีที่แล้ว เป็นอันดับที่ 3 (86.00 คะแนน) ในปีนี้ จากคะแนนด้านการคุ้มครองสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 8 คะแนน เป็น 9 คะแนน โดยมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 10 คะแนน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีอันดับโดยรวมดีขึ้น แต่ประเทศไทยยังจำเป็นต้องดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้มีความสะดวกและเอื้อต่อการแข่งขันของผู้ประกอบการด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ในระยะยาว และผลประโยชน์จากการปฏิรูปสภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะทำให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นและมีการจ้างงานก้จะมีคุณภาพมากขึ้นในอนาคตด้วย
ข้อมูลข่าวจาก สำนักข่าวไทย