[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามรายงานของ “สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์” นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคฝีดาษวานรในประเทศไทยว่า ช่วง 2- 3 เดือนที่ผ่านมาพบการเปลี่ยนแปลงทางระบาดวิทยาจากเดิมทั่วโลกพบในวัยทำงานอายุเฉลี่ยที่ 30 ปลายๆ แต่ตอนนี้เริ่มพบกลุ่มที่อายุน้อยลง และเริ่มมีเด็กนักเรียน เยาวชนเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงเดิมคือชายรักชายเป็นหลักและผู้ติดเชื้อ HIV แม้การเพิ่มขึ้นในของโรคฝีดาษนาวรในไทยจะไม่ได้เร็วเหมือนตอนที่เกิดการะบาดในยุโรป แต่ก็ยังเป็นอัตราเพิ่มเกือบ 2 เท่าในทุกๆ เดือน จึงต้องใช้ทุกมาตรการในการลดความเสี่ยงแพร่เชื้อ
อ่านข่าวเพิ่มเติม : กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการเพิ่มงบ “โครงการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตสำหรับเยาวชน”
มาตรการเชิงรุกสำคัญสุดตอนนี้คือ การป้องกัน เน้นสร้างความรู้ในกลุ่มเยาวชน ยกระดับจากที่เคยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการอยู่แล้วในเรื่องการให้ความรู้นักเรียนเรื่องเพศศึกษาและการดูแลสุขภาพทางเพศ ได้เพิ่มอีก 1 โรคเข้าไป ที่มีจุดเน้นพิเศษ เช่น การมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน เน้นเพศชายเป็นหลัก แต่ก็ให้ความรู้เพศหญิงคู่ไปด้วยเพราะแม้พบน้อยแต่ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง ให้รู้ว่าโรคฝีดาษวานร ไม่ใช่แค่ใส่ถุงยางอนามัยจะป้องกันได้ เพราะถ้าดูจากผู้ป่วยที่ไปรับการรักษาที่ รพ. หลายๆ ราย มีตุ่มขึ้นบริเวณอื่นที่สัมผัสกันได้เมื่อมีกิจกรรมเนื้อแนบเนื้อ เช่น หน้าท้อง ก้น เป็นต้น จึงควรเลี่ยง หรืองดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก ไม่ได้ดูให้ละเอียดก่อนว่ามีแผล ตุ่ม ผื่น เข้าได้กับลักษณะของโรคหรือไม่ ดีสุดคือ เลี่ยงหรืองด การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยไปเลย
อ่านข่าวเพิ่มเติม : SMS ให้ชำระค่าภาษีรถยนต์ กลโกงมิจฉาชีพ ! เตือนลิงค์เว็บไซต์ของรัฐต้องลงท้ายด้วย gov.tw เท่านั้น
สำหรับยารักษาโรคฝีดาษวานร นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้มียารักษา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก แต่เพราะเป็นยาที่ใช้ในการศึกษาจึงมีไม่มาก เนื่องจากยาดังกล่าวเป็นสำหรับฝีดาษคน ไม่ได้ขึ้นทะเบียนใช้กับฝีดาษวานรแต่แรก การใช้ต้องเก็บข้อมูลไปด้วยช่วงแรกจึงจ่ายที่สถาบันบำราศนราดูร แต่ขณะนี้ได้เริ่มกระจายไปยังจังหวัดที่พบผู้ป่วยเพิ่มแล้ว เช่น ชลบุรี ภูเก็ต และหากต้องการเพิ่มก็ขอสนับสนุนเพิ่มเติมได้ ส่วนเรื่องวัคซีนก็เช่นกันตอนนี้มีวัคซีนฝีดาษคน ซึ่งพบว่าเมื่อใช้กับฝีดาษวานรก็ได้ประโยชน์ในการป้องกันโรคด้วย จึงนับเป็นอีกเครื่องมือถัดไปที่จะนำมาใช้ แต่ต้องมาขึ้นทะเบียนกับ อย.ก่อน ขณะนี้ได้ประสานไปที่องค์การอนามัยโลกและประเทศที่มีบริการวัควีนนี้ รวมถึงใช้กลไกอาเซียน 10 ประเทศ ตามกรอบความร่วมมือด้านสาธารณสุขมาช่วยจัดหาวัคซีน ซึ่งคาดว่าน่าจะได้วัคซีนภายในปลายปีนี้