img
:::

คู่มือการเก็บรักษาอาหารที่เหลืออย่างถูกต้อง

ควรรับประทานอาหารสดในวันเดียวกันดีที่สุด. ภาพโดย /Heho Health
ควรรับประทานอาหารสดในวันเดียวกันดีที่สุด. ภาพโดย /Heho Health

อาหารเป็นพิษ / อาหารที่เหลือและอาหารข้ามคืนปลอดภัยในตู้เย็นหรือไม่? แบคทีเรียเติบโตเร็วที่สุดระหว่าง 7 ถึง 60 องศา

คุณควรทำอย่างไรเมื่อมีอาหารเต็มโต๊ะที่คุณกินไม่หมด? ทุกครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหาอาหารเหลือและอาหารข้ามคืน สำหรับครอบครัวส่วนใหญ่ การกินอาหารข้ามคืนเป็นเรื่องปกติและเป็นวิธีหลีกเลี่ยงการสูญเสียอาหาร อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บหรือการอุ่นซ้ำที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้แบคทีเรียเติบโตอย่างมาก ทำให้อาหารเป็นพิษและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ

 ควรใช้ความจุของตู้เย็นที่บ้านให้เต็ม 70-80%. ภาพโดย /Heho Health.

ควรจัดการและเก็บรักษาอาหารเหลือและอาหารข้ามคืนอย่างไร? ต่อไปนี้คือแบคทีเรียที่พบได้บ่อยในอาหารเป็นพิษ:

  1. Vibrio parahaemolyticus: พบได้ในอาหารทะเลสดและหอยดิบ
  2. Salmonella: พบได้ในเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อน, เนื้อไก่, ไข่สด, ผลิตภัณฑ์นม, และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
  3. Escherichia coli เชื้อโรค: พบในอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนอุจจาระ
  4. Staphylococcus aureus: พบในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์, ผลิตภัณฑ์จากไข่, ผลิตภัณฑ์นม, ข้าวกล่อง, และสลัดผักสด
  5. Bacillus cereus: พบในข้าวและผลิตภัณฑ์แป้งอื่น ๆ, ซอสเนื้อ, ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์, สลัด, และผลิตภัณฑ์นม
  6. Clostridium botulinum: พบในอาหารกระป๋องที่มีกรดต่ำ, ไส้กรอก, แฮม, และผลิตภัณฑ์เต้าหู้สูญญากาศ

ใคร ๆ ก็สามารถประสบกับอาหารเป็นพิษได้ โดยมีอาการทั่วไปได้แก่ ท้องเสีย, คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดท้อง, มีไข้, ปวดหัว, และอ่อนเพลีย อาการมักจะดีขึ้นภายในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุและเด็กที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาหารเป็นพิษอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยรุนแรงหรือแม้กระทั่งเสียชีวิต

เรามักเก็บอาหารที่เหลือในตู้เย็น เชื่อว่าปลอดภัย อุณหภูมิตู้เย็นปกติควรต่ำกว่า 7°C และอุณหภูมิตู้แช่แข็งควรต่ำกว่า -18°C อุณหภูมิต่ำสามารถชะลอการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ แต่ตู้เย็นไม่มีฟังก์ชันฆ่าเชื้อ อาหารที่เหลือเก็บไว้นานเกินไปในตู้เย็นยังคงเน่าเสียและเติบโตแบคทีเรียได้

ควรรับประทานอาหารสดในวันเดียวกันดีที่สุด. ภาพโดย/ Heho Health.

ไม่มีมาตรฐานแน่นอนว่าอาหารเหลือสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานกี่วัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยเช่น ความเป็นกรด-ด่าง, ปริมาณน้ำ, อุณหภูมิการปรุงอาหาร, และสุขอนามัยในการเตรียมอาหาร โดยทั่วไปแล้ว ควรบริโภคอาหารสดใหม่ในวันเดียวกัน หากไม่หมด ควรเก็บในตู้เย็น 1-2 วัน ไม่เกิน 3 วัน และแช่แข็งไม่เกิน 1 เดือน

นักโภชนาการ Liu Siyu แนะนำว่า ควรรักษาความจุของตู้เย็นให้เต็ม 70-80% เพื่อให้มีการหมุนเวียนอากาศที่เหมาะสม ซึ่งช่วยรักษาประสิทธิภาพการทำความเย็นและยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร

จุดสำคัญในการเก็บรักษาและใช้อาหารที่เหลือ:

  1. หลีกเลี่ยงการวางอาหารที่เหลือที่อุณหภูมิห้องนานกว่า 2 ชั่วโมง
  2. เก็บอาหารในภาชนะที่แห้งและปิดสนิทเพื่อป้องกันอากาศเข้า
  3. แบ่งอาหารปริมาณมากและเก็บในตู้เย็นเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนจากน้ำลาย
  4. เก็บอาหารในตู้เย็นทันทีเมื่อเย็นลงถึงอุณหภูมิที่ไม่ลวกมือ
  5. อุ่นอาหารให้ร้อนก่อนบริโภค โดยให้อุณหภูมิศูนย์กลางถึงอย่างน้อย 70°C การอุ่นด้วยไมโครเวฟควรอุ่นเป็นช่วง ๆ และคนให้ทั่วเพื่อให้อุ่นอย่างสม่ำเสมอ
  6. บริโภคอาหารที่เหลือให้หมดในครั้งเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงการอุ่นซ้ำหลายครั้ง

แบคทีเรียเติบโตอย่างรวดเร็วระหว่าง 7°C ถึง 60°C ซึ่งเรียกว่าโซนอุณหภูมิอันตราย ในช่วงอุณหภูมินี้ แบคทีเรียจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันอาหารเป็นพิษ ควรเก็บอาหารที่ปรุงเสร็จในตู้เย็นทันทีหลังเย็นลงถึงอุณหภูมิที่ไม่ลวกมือ

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading