นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความพยายามผลักดันการขับเคลื่อน 5G ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยภายในปี 2563 แต่ จากการหารือร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) หลายรายยังคงติดปัญหาเนื่องจากที่ผ่านมามีการลงทุนในระบบ4G ที่ปัจจุบันยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน ทำให้เกิดความลังเลในการลงทุน 5G หาก 5G ไม่เกิดขึ้นตามกรอบเวลาที่ได้วางไว้ จะทำให้ประเทศไทยล้าหลังกว่าประเทศอื่น โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง สปป ลาว, เวียดนาม, มาเลเซีย รวมถึงฟิลิปปินส์ และเมื่อเป็นเช่นนั้น จะทำให้นักลงทุนย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศนั้นๆ แทน
การขับเคลื่อนไปสู่ 5G รัฐบาลจะเป็นผู้ขับเคลื่อนเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพราะ 5G จะไม่เกิดประโยชน์เฉพาะกับเรา แต่จะเกิดประโยชน์กับลูกหลานของเราในอีก 10-20 ปีข้างหน้า หาก 5G ไม่เกิดขึ้นประเทศไทยจะต้องสูญเสียเม็ดเงินในการลงทุนนับล้านล้านบาท หรืออาจทำให้ลูกหลานเราต้องย้ายถิ่นฐานไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านแทน
นายพุทธิพงษ์ เชื่อว่า หากในปีหน้า ประเทศไทยมี 5G จะทำให้เทคโนโลยี นวัตกรรมที่นำมาจัดแสดงในวันนี้ ล้ำหน้าไปอย่างมาก ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และกลายเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีและข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียนได้
ข้อมูลข่าวจาก สำนักข่าวไทย.