กรมควบคุมโรคของไต้หวันประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พบผู้ป่วยโรคหัดในประเทศที่ติดเชื้อมาจากประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นชายวัย 20 ปี อาศัยอยู่ทางภาคใต้ของไต้หวัน โดยชายคนดังกล่าวได้เดินทางไปท่องเที่ยวนิวซีแลนด์กับญาติและเพื่อนๆ ด้วยตนเองระหว่างวันที่ 14-24 ส.ค. หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา มีไข้ จึงเดินทางไปหาหมอที่คลินิกในวันที่ 2, 4 และ 5 ก.ย. และในคืนวันที่ 5 ก.ย. เกิดผื่นแดงขึ้นตามตัวจึงเดินทางไปโรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ได้ให้ผู้ป่วยรายนี้นอนโรงพยาบาล มีการสังเกตอาการ และได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคหัด
โดยล่าสุด ผู้ป่วยรายดังกล่าวอาการดีขึ้นจนออกจากโรงพยาบาลและกลับไปพักที่บ้านแล้ว สำหรับญาติและเพื่อนๆ ที่ร่วมทริปไม่มีอาการที่น่าสงสัย ปัจจุบันหน่วยงานทางการแพทย์ในไต้หวันได้ทำการดูแลผู้ที่ใกล้ชิดผู้ป่วยกว่า 601 ราย และจะทำการสังเกตุอาการจนถึงวันที่ 25 ก.ย.
กรมควบคุมโรคไต้หวันได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ในปีนี้ (2019) จนถึงปัจจุบัน ไต้หวันมีผู้ป่วยโรคหัดกว่า 127 ราย โดยแบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 78 ราย และอีก 49 ราย ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ โดยส่วนมากติดเชื้อมาจาก เวียดนาม ไทย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศจุดหมายปลายทางหลักของการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ในปีนี้ (2019) ถึงวันที่ 13 ก.ย. ประเทศนิวซีแลนด์มีผู้ป่วยโรคหัดกว่า 1,275 ราย และสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยรวมกว่า 165 ราย แสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของโรคมเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว เป็นการแพร่ระบาดของโรคที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1997 ทั้งนี้เมืองโอคแลนด์ ที่ตั้งอยู่บนเกาะเหนือมีผู้ป่วยกว่า 1,007 ราย ใน กรมควบคุมโรคไต้หวันจึงได้ยกระดับคำเตือนให้อยู่ในระดับเฝ้าระวัง (Watch) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ก.ย. เป็นต้นมา
กรมควบคุมโรคไต้หวันเตือนประชาชนที่จะเดินทางไปยังพื้นที่แพร่ระบาด ให้หลีกเลี่ยงนำเด็กทารกที่มีอายุไม่ถึง 1 ขวบ หรือยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน (MMR) เดินทางไปด้วย
หากคุณมีความจำเป็นนำเด็กทารกที่มีอายุ 6 เดือนหรือไม่ถึง 1 ขวบ เดินทางไปด้วย ก็สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนก่อนออกเดินทางได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง
สำหรับประชาชนทั่วไป (เกิดหลังจากปีค.ศ 1981) ที่กำลังวางแผนเดินทางไปยังพื้นที่แพร่ระบาด แนะนำให้เข้ารับการฉีดวัคซีนก่อนออกเดินทางเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ และต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง หากคุณมีอาหารที่น่าสงสัยในระหว่างที่อยู่ต่างประเทศ เวลาเดินทางกลับไต้หวัน หรือเดินทางกลับมาแล้ว ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย และพบแพทย์โดยเร็วที่สุด รวมทั้งเล่าประวัติการเดินทางของตนเองด้วย