[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] บ้านและสวน มีรูปแบบสวนที่ตอบโจทย์ที่ว่า เป็นสวนที่ใช้ไม้ฟอร์มเท่อย่างแคคตัสและไม้อวบน้ำ รวมทั้งพรรณไม้ทนแล้งชนิดอื่น ๆ จะปลูกลงกระถาง ปลูกลงดิน หรือจัดเป็นสวนกรวดก็ได้ นำไปจัดตกแต่งได้ทั้งสวนในบ้าน คาเฟ่ ร้านอาหาร รวมทั้งมุมสวนเล็ก ๆ โดยปลูกผสมผสานกับพรรณไม้ที่ชอบน้ำน้อย หรือแซมไม้ดอกบางชนิด หากใครที่ชอบสะสมต้นไม้อย่างแคคตัสและไม้อวบน้ำอยู่แล้วก็สามารถจัดมุมสวนโดยใช้ไม้สะสมที่มีอยู่ได้
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : TPASS มาแล้ว บัตรโดยสารรายเดือนเวอร์ชั่นใหม่มีโปรหรือซื้อได้ที่ไหนบ้างดูที่เดียวจบ
สำหรับเทคนิคการจัดสวนทนแล้งมีข้อคิดและองค์ประกอบ ดังนี้
1.รูปแบบสวน สวนที่ใช้ไม้ฟอร์มไม่ได้มีแค่สวนที่ให้อารมณ์แบบทะเลทรายดูแห้งแล้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสวนอีกหลายรูปแบบที่สามารถใช้พรรณไม้เหล่านี้ได้ เช่น สวนแบบเมดิเตอร์เรเนียน สวนกลิ่นอายทะเล สวนแบบรัสติก สวนสไตล์เม็กซิกัน สวนโมเดิร์น เป็นต้น โดยผสมผสานระหว่างพรรณไม้กับฮาร์ดสเคปหรือของตกแต่งต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่เล่าเรื่อง ของสวนนั้น ๆ
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม : นำเข้าเนื้อสัตว์และพืชอย่างผิดกฎหมายมีโทษปรับ 200,000 ร่วมป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรด้วยกัน
2.พรรณไม้ทนแล้งปลูกง่าย หากพูดถึงสวนทนแล้งหลายคนอาจจะนึกถึงแคคตัสและไม้อวบน้ำซึ่งเป็นกลุ่มพรรณไม้ที่เหมาะกับสวนสไตล์นี้ที่สุดเพราะมีความโดดเด่นเรื่องฟอร์มสวย มีรูปทรงให้เลือก ชนิดที่นิยมใช้ได้แก่ ยูฟอร์เบีย อากาเว่ อะโล โอพันเทีย พญาไร้ใบ ยุกกา ลิ้นมังกร เป็นนอกจากนี้ก็ยังมีพรรณไม้อื่น ๆ ที่เข้ากันกับสวนสไตล์นี้ได้ดี เช่น จันทร์หอม จันผา เข็มกุดั่น ปรง กระดุมไม้ใบเงิน โอลีฟ เลมอน สนเกรลวิลเลีย เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มพรรณไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย และใช้น้ำน้อยเช่นกัน
3.ดินต้องระบายน้ำดี สำหรับสวนที่ปลูกแคคตัสและไม้อวบน้ำเป็นหลัก วิธีการปลูกการลงดินใช้หลักการเดียวกับที่ปลูกลงกระถางคือ วัสดุปลูกต้องระบายน้ำดี ถ้า รองก้นหลุมด้วยอิฐมอญหักหรือหินภูเขาไฟ ในพื้นที่ที่มีฝนตกชุกควรปรับแปลงปลูกเป็นเนินเพื่อให้น้ำระบายได้เร็ว การรดน้ำประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หากพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่นักสามารถลงทุนกับวัสดุปลูกราคาสูงได้ แต่หากพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ให้ผสมดินใหม่เฉพาะแปลงนั้น ๆ โดยเลือกสูตรดินปลูกตามความเหมาะสมของพื้นที่