ไต้หวันมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งเยื่อบุทางเดินปัสสาวะส่วนบน (UTUC) สูงที่สุดในโลก โดยในอดีตพบมากในผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 70 ปี แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยที่เป็นผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น ดร.จาง เหยียนฮัว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งทางเดินปัสสาวะจากโรงพยาบาล Taipei Veterans General Hospital อธิบายว่า UTUC หมายถึงเนื้องอกที่เกิดในเยื่อบุของกรวยไต ท่อไต และส่วนบนของกระเพาะปัสสาวะ โดยเนื้องอกใน UTUC มีแนวโน้มที่จะเจาะผนังเนื้อเยื่อและแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้ง่ายกว่ามะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ต้องระวังการกลับมาเป็นซ้ำหลังผ่าตัด
สถิติระบุว่า ผู้ป่วย UTUC ในไต้หวันที่เกิดในกรวยไตและท่อไตมีสัดส่วนมากกว่า 30% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับโลกที่ 10% อย่างมาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักได้รับการวินิจฉัยในระยะที่โรคเริ่มแพร่กระจาย โดยมีโอกาสถึง 40% ที่จะพัฒนาไปสู่ระยะลุกลาม ปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อย ได้แก่ การสูบบุหรี่ การปนเปื้อนของโลหะหนัก และกรดอริสโตโลชิกจากสมุนไพรจีน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสื่อมสมรรถภาพของไต 
80% ของผู้ที่มีอาการปัสสาวะเป็นเลือดแบบไม่เจ็บ อาจเป็นมะเร็งเยื่อบุทางเดินปัสสาวะ (ภาพ / ได้รับความอนุเคราะห์จาก Heho Health)
ดร.จางเล่าถึงกรณีผู้ป่วย 2 ราย รายแรกเป็นผู้หญิงอายุ 69 ปี มีอาการปัสสาวะเป็นเลือดโดยไม่เจ็บเป็นเวลา 2 เดือน และตรวจพบว่ากรวยไตด้านซ้ายถูกเนื้องอกอุดตัน เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง UTUC ระยะที่ 3 และต้องผ่าตัดเอาไตซ้ายและท่อไตออก ส่วนรายที่สองเป็นผู้หญิงอายุ 79 ปี มีอาการปวดหลังขวานาน 2 เดือน อัลตราซาวด์พบว่ามีการบวมน้ำที่ไตขวาและท่อไต หลังการผ่าตัดเอาเนื้องอกออก ผู้ป่วยทั้งสองรายได้รับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด และมีอาการคงที่ในการติดตามผลหลังผ่าตัด 
นายแพทย์จาง เหยียนฮัว หัวหน้าแผนกทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาล Taipei Veterans General Hospital (ภาพ / ได้รับความอนุเคราะห์จาก Heho Health)
การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็ง UTUC โดยในอดีตใช้สำหรับการรักษาระยะลุกลาม แต่ในปัจจุบันเริ่มนำมาใช้ในระยะเริ่มต้นมากขึ้น สามารถยืดระยะเวลาการรอดชีวิตโดยไม่พบโรคได้นานถึง 21 เดือน ปัจจุบันวิธีนี้ได้รับการอนุมัติให้ใช้เป็นการรักษาเสริมสำหรับ UTUC แต่มีค่าใช้จ่ายที่สูง โดยค่าใช้จ่ายรายเดือนอยู่ที่ประมาณ 100,000-200,000 ดอลลาร์ไต้หวัน และต้องรักษาต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี แพทย์แนะนำว่า หากมีอาการปวดหลังหรือปัสสาวะเป็นเลือด ควรรีบพบแพทย์เพื่อป้องกันการวินิจฉัยที่ล่าช้า
บทความนี้ได้รับอนุญาตจาก Heho Health
