สถานศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายลงมาจนถึงระดับชั้นอนุบาลทั่วไต้หวันจะเริ่มเปิดเทอมในวันที่ 1 กันยายนนี้ เพื่อสอดรับกับสถานการณ์โรคระบาดในไต้หวัน กระทรวงศึกษาธิการประกาศแนวปฏิบัติในการบริหารจัดการป้องกันโรคระบาดสำหรับสถานศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายลงมาจนถึงระดับชั้นอนุบาล โดยเน้นไปที่การจัดการด้านกิจกรรมการเรียนการสอน มาตรการเข้าออกสถานศึกษา นโยบายการหยุดเรียนและอื่น ๆ [เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] จึงได้สรุปรวบรวมออกมาเป็น 10 ข้อ เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจอย่างชัดเจน ซึ่งประกอบไปด้วยการสวมหน้ากากอนามัยในวิชาพลศึกษา วัดอุณหภูมิร่างกาย 3 ครั้งต่อวัน หากกังวัลว่าติดเชื้อสามารถไม่มาโรงเรียนได้และอื่น ๆ
อ่านข่าวเพิ่มเติม: 1พันแลก5พัน! สิ้นเดือนกันยายน จะเปิดตัว "คูปอง 5 เท่า"
กระทรวงศึกษาธิการประกาศแนวปฏิบัติ 10 ประการเพื่อป้องกันโรคระบาด ภาพ/จากกระทรวงศึกษาธิการ
- กระทรวงศึกษาธิการประกาศแนวปฏิบัติ 10 ประการเพื่อป้องกันโรคระบาดในช่วงเปิดเทอม
1.ข้อกำหนดการเดินทางเข้าสู่สถานศึกษาสำหรับบุคลากรครู อาจารย์ และนักเรียน
วัดอุณหภูมิร่างกาย 3 ครั้งต่อวัน ประกอบไปด้วย ก่อนมาเรียน ตอนเข้าโรงเรียน ก่อนเรียนภาคบ่าย โดยบุคลากรครู อาจารย์และนักเรียนในสถานศึกษาจะต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นในช่วงรับประทานอาหารและดื่มน้ำ
2.หากบุคลากรครู อาจารย์ไม่ได้ฉีดวัคซีน
หากยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วแต่ยังไม่ครบ 14 วัน ครั้งแรกในการเข้าสู่รั้วสถานศึกษาจักตั้งแสดงผลการตรวจเชื้อแบบ Rapid Test โดยชุดตรวจ ATK (Antigen Test Kit) หรือการตรวจแบบ RT-PCR นอกจากนี้ทุก ๆ 7 วันก็จะต้องทำการตรวจเชื้อ 1 ครั้งด้วยวิธีการตรวจแบบ Rapid Test หรือ RT-PCR ด้วย
3.หากเป็นไข้ต้องทำอย่างไร
บุคคลที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด ตัวร้อน และมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน ให้ปฏิบัติตามมาตรการ “หากป่วยไม่มาทำงาน ไม่เข้าสถานศึกษา
4.แนวปฏิบัติในการป้องกันโรคระบาดในขณะรับประทานอาหารในสถานศึกษา
การรับประทานอาหารในห้องเรียนพึงรักษาสภาพแวดล้อมที่มีอาการถ่ายเท โดยรับประทานอาหารชุดของตัวเองและมีแผ่นกระดานกั้น พร้อมทั้งรักษาระยะห่างทางสังคมในการรับประทานอาหาร โดยไม่ต่อโต๊ะร่วมรับประทานอาหาร งดการพูดคุยในขณะรับประทานอาหาร และทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายหลังจากการรับประทานอาหารให้เรียบร้อย โดยเครื่องกดน้ำ “อนุญาตให้ใช้เฉพาะการบรรจุใส่ภาชนะ ไม่อนุญาติให้ใช้แบบปากดื่ม”
5.ใส่หน้ากากอนามัยขณะเรียนวิชาพลศึกษา
วิชาพละศึกษาที่จัดขึ้นนอกอาคารพึงรักษาระยะห่างทางสังคม โดยเฉพาะการเรียนกีฬาที่มีลักษณะในการสัมผัสกันทางร่างกายง่ายหรือกีฬาประเภททีม อาจารย์ผู้สอนพึงปรับวัตถุประสงค์ของวิชา เนื้อหาที่เรียน และกระบวนการประเมินผล ให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติในการป้องกันโรคระบาดต่าง ๆ โดยใส่หน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการเรียนการสอน
อ่านข่าวเพิ่มเติม: สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองดัน “โครงการทุนช่วยเหลือการศึกษา” ศูนย์การเรียนรู้สำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในจินเหมินได้รับรางวัลกว่า 14 คน!
ขอให้ผู้ปกครอง บุคลากรครู อาจารย์ และนักเรียนปฏิบัติตามแนวปฏิบัติป้องกันโรคระบาด ภาพ/จาก UP Media
6.พิธีเปิดการศึกษา การประชุมประจำสัปดาห์ และการต้อนรับนักเรียนใหม่
ใช้วิธีการแบบออนไลน์เป็นหลัก หากต้องการจัดในสถานที่จริง จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติของศูนย์บัญชาการป้องกันโรคระบาดกลาง โดยกิจกรรมจำกัดที่ 50 คนสำหรับภายในอาคาร และ 100 คนสำหรับภายนอกอาคาร หากจำนวนคนเกินจำเป็นต้องเขียนแผนการป้องกันโรคระบาดเพื่อขออนุญาตหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง
7.เงื่อนไขการหยุดเรียนในกรณีที่บุคลากร ครู อาจารย์ หรือ นักเรียนติดเชื้อ
ใน 1 ห้อง มีบุคลากร ครู อาจารย์ 1 ท่านติดเชื้อ ห้องนั้นให้หยุดเรียน ใน 1 โรงเรียนหากมีบุคลากร ครู อาจารย์ 2 ท่านขึ้นไปที่ติดเชื้อ โรงเรียนนั้นให้หยุดเรียน ใน 1 หมู่บ้าน อำเภอ เมือง เขต มีโรงเรียน 1 ใน 3 ที่ปิดการเรียน ให้ทั้งหมู่บ้าน อำเภอ เมือง และเขตนั้นหยุดเรียน
8.นักเรียนกังวลว่าติดเชื้อไม่มาโรงเรียน
หากนักเรียนกังวัลว่าตัวเองมีโอกาสติดเชื้อ สามารถไม่มาเรียนได้ โดยสถานศึกษาไม่สามารถเช็คขาดได้
9.แนวปฏิบัติสำหรับการเปิดแอร์ในห้องเรียน
รักษาสภาพแวดล้อมในการรับประทานอาหารและการเรียนให้อยู่ในที่ที่อาหารถ่ายเท หากมีการเปิดแอร์ควรมีการเปิดหน้าต่าง 1 บานในทุกมุมห้อง โดยหน้าต่างแต่ละบานต้องกางอย่างน้อย 15 เซนติเมตร พร้อมทั้งคุ้มเข้มมาตรการในการระบายอากาศและการฆ่าเชื้อโรค
10.ผู้ปกครองและแขกผู้มาเยือนไม่อนุญาตให้เข้าสู่รั้วสถานศึกษา
ผู้ปกครองและแขกผู้มาเยือนยึดหลักการไม่เข้าสู่รั้วสถานศึกษานับตั้งแต่เปิดเทอม ยกเว้นบุคคลที่สถานศึกษาหรือโรงเรียนอนุบาลเห็นสมควรและมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเดินทางเข้าสถานศึกษา