ลูกน้อยของคุณอายุสองขวบแล้วยังเปล่งเสียงแค่ "อา-อา"? นี่อาจไม่ใช่แค่ปัญหาการพัฒนาช้าเท่านั้น พ่อแม่หลายคนพาลูกไปเข้าคลาสพัฒนาการเร็ว แต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง ปัญหาจริงอาจอยู่ที่จำนวนครั้งของการบำบัดไม่เพียงพอ ผู้เชี่ยวชาญเน้นว่าการบำบัดต้องแทรกเข้ามาในชีวิตประจำวัน และแบ่งปัน 5 เคล็ดลับง่ายๆ เพื่อช่วยพ่อแม่ทำการบำบัดที่บ้าน
เด็กหลายคนต้องการการบำบัดเร็ว แต่การเข้าคลาสเพียงสองหรือสามครั้งต่อสัปดาห์อาจไม่เพียงพอ นักบำบัด Du Wan-Ru ชี้ว่า สภาพแวดล้อมในบ้านเป็นพื้นที่กิจกรรมหลักของเด็ก หากพ่อแม่ไม่สามารถช่วยนำทางเด็กในบ้านได้ ความก้าวหน้าก็จะถูกจำกัด เธอเน้นว่า "ความถี่ของการบำบัดมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความเร็วในการพัฒนา" และเด็กต้องการการฝึกฝนในชีวิตประจำวันเพื่อเพิ่มการพัฒนา
5 เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทำให้การบำบัดเร็วเป็นเรื่องสนุกและมีประสิทธิภาพ!
- การเรียนรู้ควบคู่กับกิจวัตรในบ้าน
การบำบัดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ Peng Ling แนะนำว่า การทิ้งขยะหรือเก็บของใช้แล้วสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ Du Wan-Ru เสริมว่าการดูหมายเลขที่อยู่หรือหมายเลขรถประจำทางระหว่างเดินทางก็ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การรู้จำตัวเลข - กระตุ้นให้ลูกช่วยทำงานบ้าน
งานบ้านเช่นพับเสื้อผ้าและตากถุงเท้าเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้พัฒนาการ ทักษะการใช้กล้ามเนื้อเล็ก Du Wan-Ru ยังแนะนำว่าพ่อแม่ควรเรียนรู้ท่าทางที่ถูกต้องเพื่อที่จะสามารถแนะนำลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ใช้สิ่งที่ลูกสนใจเพื่อส่งเสริมการสื่อสารด้วยสายตา
สำหรับเด็กที่ไม่ชอบสื่อสารด้วยสายตา พ่อแม่สามารถใช้ของกินที่ลูกชอบเป็นเครื่องมือในการโต้ตอบ โดยวางของกินไว้ที่ระดับสายตาของพ่อแม่ - พกของเล่นไปเล่นนอกบ้านและบันทึกช่วงเวลาเล่น
กิจกรรมเช่นการเป่าฟองสบู่ โยนลูกบอลช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่ - จำกัดการใช้ 3C และตั้งข้อจำกัดที่เหมาะสม
Peng Ling แนะนำว่าเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีไม่ควรใช้โทรศัพท์ และควรจำกัดการใช้วันละ 30 นาทีและร่วมกับพ่อแม่ในการคัดเลือกเนื้อหาที่เหมาะสม
ผู้ปกครองไม่ควรปกป้องลูกมากเกินไประหว่างการฝึกในบ้าน แต่ควรกระตุ้นให้พวกเขามีส่วนร่วมในงานบ้าน เพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้และส่งเสริมการพัฒนาและการเติบโตของเด็ก (ภาพ / Heho จัดทำ)
หากพ่อแม่เห็นพัฒนาการที่ผิดปกติ ควรรีบหาการประเมินและบำบัดจากผู้เชี่ยวชาญ การบำบัดเร็วไม่ใช่แค่คลาสเรียน
ที่มา: แม่เบบี้