img
:::

แอปจัดการอาหารเหลือ: ลดขยะอาหาร ประหยัดเงิน และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

ตามข้อมูลของกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) อาหารทั่วโลกประมาณ 40% ถูกทิ้งโดยไม่ได้บริโภค ส่งผลให้เกิดต้นทุนมากถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี (ภาพ/Google Play)
ตามข้อมูลของกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) อาหารทั่วโลกประมาณ 40% ถูกทิ้งโดยไม่ได้บริโภค ส่งผลให้เกิดต้นทุนมากถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี (ภาพ/Google Play)

ตามสถิติของกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ประมาณ 40% ของอาหารทั่วโลกถูกทิ้งโดยไม่ได้รับประทาน ซึ่งทำให้เกิดต้นทุนสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในขณะเดียวกันยังมีประชากรกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกที่เผชิญกับความหิวโหย สารคดี "Wasted! The Story of Food Waste" ระบุว่าอาหารจำนวน 1.3 พันล้านตันถูกทิ้งทุกปี ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาการกระจายทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียมกันอย่างรุนแรง

เพื่อแก้ไขปัญหาขยะอาหาร นอกจากการส่งเสริมความตระหนักในเรื่องนี้แล้ว ยังมีวิธีการที่เป็นรูปธรรมอีกหลายประการ "แอปพลิเคชันอาหารเหลือ" เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของวิธีแก้ปัญหา

"แอปพลิเคชันอาหารเหลือ": เปลี่ยนอาหารที่เหลือให้เป็นโอกาส

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา "แอปพลิเคชันอาหารเหลือ" ได้รับความนิยมในต่างประเทศ แอปพลิเคชันเหล่านี้ช่วยให้ร้านค้าสามารถขายอาหารที่เหลือในราคาพิเศษผ่านแอปพลิเคชันมือถือ และผู้บริโภคสามารถซื้ออาหารได้ในราคาที่ถูกลง ทั้งลดการสูญเสียและประหยัดเงิน เป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์

ในไต้หวัน แม้จะมีแอปพลิเคชันลักษณะนี้เปิดตัวแล้ว แต่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก ตามข้อมูลของ DailyView Internet Thermometer มีแอปพลิเคชันอาหารเหลือยอดนิยมมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่มีค่าครองชีพสูง เช่น ในยุโรปและอเมริกาเหนือ นักท่องเที่ยวสามารถใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และยังมีส่วนช่วยลดขยะอาหารอีกด้วย(จากซ้าย) Tasteme, Too Good To Go, Flashfood (ภาพ/Google Play)

แอปพลิเคชันที่แนะนำ:

★ Tasteme – แอปพลิเคชันอาหารเหลือ (ไต้หวัน)
Tasteme เน้นการให้บริการอาหารในราคาพิเศษ ผู้ใช้ต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกและซื้อ "T-Coins" เพื่อสั่งอาหาร และต้องยืนยันตัวตนผ่านหมายเลขโทรศัพท์ ส่วนลดในแอปสามารถลดได้ถึง 50% ของราคาปกติ

★ ResQ Club (ฟินแลนด์)
ก่อตั้งในปี 2015 ที่เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ResQ Club ปัจจุบันให้บริการในฟินแลนด์ เยอรมนี สวีเดน และโปแลนด์ โดยมีผู้ใช้กว่า 10,000 คน แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้ออาหารเหลือจากร้านอาหารและคาเฟ่ใกล้เคียงได้ โดยช่วยประหยัดอาหารประมาณ 110,000 ชุดต่อเดือน

★ Too Good To Go (เดนมาร์ก)
ก่อตั้งในปี 2016 ที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก Too Good To Go ให้บริการในยุโรปและอเมริกาเหนือ ครอบคลุม 17 ประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ฝรั่งเศส และออสเตรีย โดยมีผู้ใช้มากกว่า 18 ล้านคน และร่วมมือกับร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านกาแฟกว่า 38,000 แห่ง นำเสนอ "Surprise Bags" ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้ออาหารมูลค่า €15 ในราคาเพียง €3-€5

★ Flashfood (แคนาดา)
ก่อตั้งในปี 2016 ที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา Flashfood ร่วมมือกับซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เช่น Meijer เพื่อให้บริการอาหารลดราคาแก่ครอบครัวกว่า 5 ล้านครัวเรือน ในปี 2023 แอปพลิเคชันนี้ลดขยะอาหารได้ถึง 1,600 กิโลกรัม และช่วยผู้ใช้ประหยัดเงินรวม 93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

★ Karma (สวีเดน)
เปิดตัวในปี 2016 ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน Karma ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้ออาหารเหลือจากร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ ในราคาลดพิเศษ ปัจจุบันให้บริการในสวีเดน ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร และมีผู้ใช้ประมาณ 1.4 ล้านคน

★ FoodForAll (สหรัฐอเมริกา)
ก่อตั้งในปี 2016 ให้บริการในพื้นที่นิวยอร์กและบอสตัน ผู้ใช้สามารถซื้อ "Surprise Bags" ที่บรรจุอาหารเหลือในราคาที่ลดลง 20%-50% จากราคาเดิม

★ Foody Bag (ออสเตรเลีย)
เปิดตัวในปี 2021 ที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย Foody Bag ปัจจุบันให้บริการในบริสเบนและซิดนีย์ โดยร่วมมือกับร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าปลีก ผู้ใช้สามารถซื้ออาหารในราคาหนึ่งในสาม และยังสามารถตั้งค่าการค้นหาส่วนตัวได้ตามงบประมาณ ประเภทของร้านค้า และความชอบในการรับประทานอาหาร

ในยุคที่การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นประเด็นสำคัญ การลดขยะอาหารไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ยังเป็นรูปแบบใหม่ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจสำหรับร้านค้าและช่วยผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่าย การใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมแนวคิด "การประหยัดอาหาร" จะเป็นแนวโน้มที่น่าจับตามองในอนาคต

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading