ผ่านร่างกฎหมายสี่ฉบับว่าด้วยการปราบปรามการฉ้อโกง สร้างสังคมที่ปลอดภัยจากการฉ้อโกง

เป็นกฎหมายที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อปราบปรามการฉ้อโกง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในประเทศและแก้ไขข้อบกพร่องในกฎหมายปัจจุบัน!

เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียทางการเงินของประชาชน รัฐบาลได้ดำเนินการปราบปรามการฉ้อโกงจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ!

การป้องกันการฉ้อโกงจากต้นน้ำ

ทุกคนมาร่วมมือกันป้องกันการฉ้อโกง

การเงิน
ตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติและสกัดกั้นเงินที่ผิดกฎหมายล่วงหน้า เพื่อยับยั้งบัญชีม้า

การสื่อสารโทรคมนาคม
ร่วมมือและจำกัดหรือหยุดให้บริการโทรคมนาคมแก่ผู้ใช้ที่มีการใช้งานผิดปกติ

ดิจิทัล
ควบคุมแพลตฟอร์มโฆษณาต่างประเทศและนำโฆษณาฉ้อโกงลงจากระบบ รวมถึงยับยั้งบัญชีม้า

ป้องกันจากแหล่งเงินทุนและช่องทางการเข้าถึงเพื่อลดจำนวนผู้เสียหาย!

การปราบปรามการฉ้อโกงจากปลายน้ำ

การเพิ่มโทษสำหรับกรณีที่มีสามปัจจัยนี้

จำนวนผู้กระทำความผิดมาก

จำนวนผู้เสียหายมาก

จำนวนเงินในการกระทำความผิดมาก

ยิ่งโกงมาก ยิ่งถูกจำคุกนาน และหากกระทำความผิดสามครั้งจะไม่ได้รับการทัณฑ์บน

กฎหมายนกสองหัว

ผู้กระทำความผิดที่มอบตัวหรือช่วยในการสืบสวนจะได้รับการลดหรือยกเว้นโทษ

การขยายขอบเขตการยึดทรัพย์

ยึดทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดและผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ

การเพิ่มเกณฑ์สำหรับการทัณฑ์บน

กระทรวงยุติธรรมยังได้จัดทำเครื่องมือใหม่ 3 ประการเพื่อเสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจะช่วยในการทำลายเครือข่ายอาชญากรรมการฉ้อโกง!

พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

พระราชบัญญัติการสืบสวนและการคุ้มครองด้วยเทคโนโลยี

พระราชบัญญัติคุ้มครองและการเฝ้าระวังการสื่อสาร

บังคับควบคุมสินทรัพย์เสมือน

ป้องกันการฟอกเงินผ่านสินทรัพย์เสมือนอย่างเข้มงวด!

บริษัทแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลทั้งในและต่างประเทศต้องตั้งสำนักงานในประเทศและลงทะเบียนป้องกันการฟอกเงินก่อนที่จะให้บริการได้

ควบคุมการชำระเงินผ่านบุคคลที่สาม

หลีกเลี่ยงการกลายเป็นช่องทางในการฟอกเงิน

หากไม่ลงทะเบียนกับหน่วยงานกลางเพื่อป้องกันการฟอกเงินหรือไม่ผ่านการประเมินความสามารถในการให้บริการ จะไม่สามารถให้บริการได้

นอกจากการป้องกันการฉ้อโกงจากต้นน้ำแล้ว ยังเสริมด้วยการสืบสวนผ่านเทคโนโลยีเพื่อทำลายเครือข่ายอาชญากรรมการฉ้อโกง


พระราชบัญญัติการสืบสวนและการคุ้มครองด้วยเทคโนโลยี
อนุญาตให้ใช้การติดตามตำแหน่ง GPS, ตำแหน่งยานพาหนะ และอุปกรณ์วัดอุณหภูมิด้วยภาพความร้อนในกรณีเฉพาะ

พระราชบัญญัติคุ้มครองและการเฝ้าระวังการสื่อสาร
อัยการสามารถดึงข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อดูที่อยู่ IP, ข้อมูลตำแหน่ง และเวลาการติดต่อได้

แก้ไขข้อหาความผิดที่เกี่ยวกับการเฝ้าระวังการสื่อสารและกระบวนการในการเฝ้าระวังการสื่อสารฉุกเฉิน

ผู้ประกอบการโทรคมนาคม, เครือข่ายโทรคมนาคมสาธารณะ และกิจการไปรษณีย์มีหน้าที่ช่วยเหลือในการเฝ้าระวังการสื่อสาร

สามารถดำเนินการได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากผู้พิพากษา

จัดเก็บข้อมูลและช่วยในการดึงข้อมูลการติดต่อสื่อสาร